เมื่อวันที่ 25 พ.ย.นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการฯนัดแรกเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ว่า กรอบการทำงานของคณะกรรมาธิการฯจะมีการหารือกันในวันที่ 27 พ.ย. ซึ่งที่ประชุมขอให้สมาชิกรัฐสภาแปรญัตติเพื่อแก้ไขเนื้อหาให้ทันตามกำหนด 15 วัน โดยแต่ละพรรคได้แจ้งส.ส.ของตนเองแล้ว ส่วนระยะเวลาการทำงานของคณะกรรมาธิการฯที่ฝ่ายค้านต้องการระยะเวลาสั้นกว่า 45 วันนั้นได้หารือกับนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมาธิการฯ โดยได้รับแจ้งว่ากรอบเวลาของคณะกรรมาธิการฯขอให้ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะมีความเห็นอย่างไร ดังนั้น การประชุมของคณะกรรมาธิการฯสัปดาห์ละหนึ่งวัน คือ วันศุกร์ตลอดทั้งวัน และหากจะเร่งการทำงานก็ต้องมีการเพิ่มวันประชุมต่อไป นายสมคิด กล่าวว่า ประเด็นแรกที่จะพูดคุยกัน คือ เนื้อหาแต่ละมาตราว่าจะดำเนินการพิจารณาอย่างไร แต่คิดว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะตั้งคณะอนุกรรมาธิการ อย่างไรก็ตาม ได้มีการพูดคุยกันว่าการกำหนดการยกร่างรัฐธรรมนูญของสภาร่างรัฐธรรมนูญนั้นอยากให้ฟังเสียงของทุกภาคส่วน ทั้งนี้ ในส่วนนี้กรรมาธิการสัดส่วนของฝ่ายค้านจะเสนอแก้ไขจำนวนสมาชิกส.ส.ร.ที่หลายฝ่ายยืนยันว่าจะต้องมาจากการเลือกตั้ง 200 คน ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยในคณะกรรมาธิการว่าส.ส.ร.ที่มาจากการสรรหาหรือแต่งตั้งจำนวน 50 คนตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลจะปรับแก้ไขอย่างไร ซึ่งคณะกรรมาธิการแต่ละกลุ่มยังพูดคุยกันในวงกว้างๆอยู่ เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านอยากให้แก้ไขในประเด็นใดมากที่สุด นายสมคิด กล่าวว่า เรื่องที่มาของคุณสมบัติของสมาชิกส.ส.ร.เพราะฝ่ายค้านยืนยันว่าอยากให้ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง 200 คน นอกจากนี้ จะมีส.ส.เสนอให้นำเนื้อหาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์เข้ามาพิจารณาด้วย เพราะไอลอว์เสนอให้ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งเช่นกัน โดยเป็นลักษณะการกำหนดให้ใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง จึงคิดว่าอาจเสนอปรับรใช้โดยกำหนดให้สมาชิกส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งเขตจังหวัด 100 คน และระบบประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง 100 คน ซึ่งสามารถเสนอเข้ามาได้ เพราะยังสอดหลักการที่รัฐสภาได้มีมติรับหลักการเอาไว้ นอกจากนี้ ฝ่ายค้านยังประสานไปยังไอลอว์เพื่อขอให้เข้ามาเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมาธิการ