วันที่ 24 พ.ย.63 ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม กรณีที่มีพระสงฆ์และสามเณรออกมาเข้าร่วมชุมนุมกับประชาชน นายเทพไทกล่าวว่า สืบเนื่องจากที่มีพระสงฆ์และสามเณรออกมาร่วมชุมนุม ซึ่งอาจเกิดวิกฤตศรัทธาต่อสถาบันศาสนา ขณะนี้ต้องยอมรับว่ามีความหมิ่นเหม่ในการสั่นคลอนต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตนจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน ในฐานะที่เป็นผู้แทนราษฎร ในฐานะที่เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม จึงยื่นหนังสือมายังท่านประธานกรรมาธิการ เพื่อให้มีมติกรรมาธิการที่จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาอธิบายถึงสิทธิ เสรีภาพ หรือความเหมาะสมของพระภิกษุสงฆ์ที่ครองสมณเพศอยู่ว่าสามารถแสดงออกทางการเมืองได้หรือไม่ หรือสามารถแสดงออกได้มากเท่าใด สิทธิในการที่เป็นพระภิกษุและฆราวาสต่างกันอย่างไร นายเทพไทกล่าวว่า ตนคิดว่าการแสดงออกของพระภิกษุก็สามารถทำได้ แต่สามารถทำได้ในเวทีไหน เวทีเสวนา เวทีวิชาการ เวทีที่เปิดให้มีการแสดงออกก็สามารถทำได้ แต่การเดินขบวน การขึ้นเวที การชุมนุม การไฮปาร์ก หรือการแสดงออกในด้านความรุนแรงสามารถทำได้หรือไม่ ทั้งนี้ อยากได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ จึงยื่นหนังสือมายังประธาน กมธ. เพื่อที่ประธานจะได้มีโอกาสเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบมาให้ความกระจ่าง และหามาตรการแก้ไข เพื่อไม่ให้การแสดงออกของพระภิกษุสงฆ์และสามเณรไปกระทบต่อความศรัทธาของประชาชน ด้านนายสุชาติกล่าวว่า ในฐานะ กมธ.ได้ติดตามเรื่องนี้อยู่ อย่างน้อยในเวทีที่สี่แยกราชประสงค์และที่มหาวิทยาลัยมหิดลที่เห็นปัญหา มีพระภิกษุและสามเณรจำนวนหนึ่งไปร่วมในการชุมนุมประท้วง และมีการใช้คำพูดรุนแรง จึงมองว่าเป็นการกระทำที่กระทบต่อความรู้สึกของคนที่กราบไหว้ ซึ่งในทางศาสนาพุทธก็ไม่เหมาะสม “เห็นว่าเรื่องนี้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ในฐานะกรรมาธิการในวันพฤหัสบดีที่จะถึง (26 พ.ย.) เวลา 10.00 น. จะเชิญผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เชิญเจ้าคณะภาคหนึ่ง ในฐานะผู้ปกครองในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้มาชี้แจง เนื่องจากได้ทราบว่าทางมหาเถรสมาคม (มส.) ได้มีมติมาแล้ว 4 ข้อว่าอะไรที่พระภิกษุและสามเณรสามารถทำได้หรือไม่ได้” นายสุชาติกล่าว