เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมว่า ตามขั้นตอนจะต้องใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลเป็นหลัก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะผลักดันข้อเสนอของประชาชนได้ ซึ่งฝ่ายค้านจะผลักดันให้มากที่สุด แต่อาจจะผลักดันข้อเสนอได้ไม่ทั้งหมด เพราะการแก้ไขต้องไม่ขัดกับหลักการที่รัฐสภาได้ลงมติรับหลักการมา แต่ยืนยันว่าจะผลักดันข้อเสนอของภาคประชาชนให้ได้มาที่สุด เช่น ที่มาและกระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลักการที่ตรงกันที่น่าจะเอาปรับใช้กันได้ โดยเราหวังว่าการพิจารณาของคณะกรรมาธิการจะเป็นการถกเถียงด้วยเหตุผลเป็นหลัก เมื่อถามว่า สถานการณ์ทางการเมืองจะมีผลอย่างไรต่อการทำงานของคณะกรรมาธิการฯหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ออกมาไม่ได้มีเนื้อหาเป็นประชาธิปไตยเลยก็ยากที่ประชาชนจะยอมรับ เพราะประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินทุกอย่าง  การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าวิกฤติที่เกิดขึ้นจะจบ เพราะไม่ใช่ยาวิเศษ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว แต่ก็มีกระบวนการระยะสั้นที่ต้องแก้ด้วย เช่น มาตรา 272 ว่าด้วยการให้ส.ว.ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี โดยหากในอนาคตอันใกล้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นมาและยังให้ส.ว.เลือกนายกฯอีกครั้ง ประเทศลุกเป็นไฟแน่