เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 พ.ย.63 ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ปปป. ชั้น 4 อาคาร บี ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.รัชพล เทียมสะคู รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปปป. ร้องทุกข์กล่าวโทษ รมต.ว่าการกระทรวงยุติธรรม เลขาธิการ ปปส.กับพวก ร่วมกันแถลงข่าวอันเป็นเท็จก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ในการจับเคตามีนที่โกดังจังหวัดฉะเชิงเทรา 11.5 ตัน มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ในความผิดตาม มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมนำหลักฐาน คลิป และข้อมูลจากการแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติด (เคตามีน) จำนวน 11.5 ตัน ในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา มามอบให้พนักงานสอบสวน ป.ป.ป. สำหรับกรณีนี้ ตนเองมองว่า เป็นการกระทำที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ เนื่องจาก กระทรวงยุติธรรม และ ป.ป.ส. เป็นองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ ในการตรวจสอบยาเสพติด ซึ่งในวันดังกล่าวมีการเชิญนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมตรวจสอบ โดยระบุผลตรวจเป็นสีม่วง ซึ่งถือว่าเป็นยาเสพติด แต่ภายหลังไม่กี่วัน กลับมีการแถลงข่าวอีกครั้งว่าสารที่พบดังกล่างไม่ใช่ยาเสพติด และ ผลการตรวจก็เป็นสีขาว พร้อมให้เหตุผลว่า เป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต ในส่วนนี้ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรี ดูแลกระทรวงยุติธรรมก็ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ รวมถึงเขาธิการ ป.ป.ส.ด้วย ทั้งนี้ ตนได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ช่วง ส.ค.63 นายอภิชาติ ซึ่งเป็นชาวม้ง ได้นำของกลางมาไว้ที่โกดัง จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้น วันที่ 3 ก.ย. ได้มีชิปปิ้งนำของกลางขนส่งไปทางท่าเรือคลองเตยและท่าเรือแหลมฉบังเพื่อส่งออกไปยังประเทศไต้หวัน กระทั่ง วันที่ 26 ก.ย. ประเทศไต้หวันจับกุมของกลางและส่งหลักฐานมาให้เจ้าหน้าไทยดำเนินการ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ไทยไม่ได้ออกหมายจับแต่กลับขยายผลไปตรวจค้นและยึดของกลางมาแถลงข่าวเสียก่อน จึงทำให้เกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังพบความผิดปกติในการเก็บของกลาง ซึ่งปกติ รมว.ยธ. จะต้องมีลายเซ็นต์กำกับไว้ในของกลางเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้าย แต่ครั้งนี้กลับพบว่ามีการเก็บของกลางอย่างไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ที่ผ่านมามีการนำยาเสพติดส่งออกต่างประเทศหลายครั้ง โดยประเทศไต้หวันได้ประสานทางการไทยแต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินคดีได้อย่างจริงจัง