ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ เกิดในฮันติงตัน, นิวยอร์ค เมื่อปี 1970 หลังจากจบมัธยมปลายก็มุ่งหน้าเอาดีในอาชีพดนตรี เธอหาเลี้ยงชีวิตด้วยการเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ระยะหนึ่ง ระหว่างนี้ก็ฝึกฝนการแต่งเพลงไปด้วย ต่อมา แครีย์ ได้โอกาสเป็นนักร้องประสานในห้องบันทึกเสียงให้ศิลปินรายหนึ่ง เสียงในเดโมของเธอไปเข้าหูและสร้างความประทับใจให้ ทอมมี ม็อตโตล่า ผู้บริหารและโปรดิวเซอร์ของ โคลัมเบีย เรคคอร์ดส์ จึงเซ็นสัญญากับเธอ แครีย์ ได้ออกอัลบั้มชุดแรก Mariah Carey ในปี 1990 และประสบความสำเร็จอย่างน่าตื่นเต้น และหลังจากนั้นคือประวัติศาสตร์ของศิลปินหญิงที่สร้างสถิติไว้มากมายในวงการดนตรี ทั้งการขายผลงานและรางวัลเกียรติยศ จนกระทั่งมาถึง Caution (2018) อัลบั้มจากสตูดิโอชุดหลังสุด หากนับตั้งแต่ปี 1990 มาถึงตอนนี้เป็นเวลา 30 ปีเต็ม จึงถือเป็นการฉลองวาระสำคัญในอาชีพศิลปินบันทึกเสียงของเธอ โดยก่อนหน้านี้เธอได้ออกหนังสือ The Meaning of Mariah Carey, อัลบั้มแสดงสด The Live Debut: 1990, นำซิงเกิ้ลต่างๆมารีมิกซ์และขายทางแพล็ทฟอร์มออนไลน์ และเดือนตุลาคม 2020 เธอก็ออกอัลบั้ม The Rarities The Rarities เป็นอัลบั้มรวมเพลงที่แบ่งเป็น 2 แผ่น (หากซื้อเป็นซีดี) แผ่นแรกมี 15 เพลง เป็นการรวมเพลงจากด้าน บี ของซิงเกิ้ลที่เคยออกมาแล้วในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา และเพลงที่ไม่เคยปล่อยออกสู่สาธารณะมาก่อน เริ่มด้วยเพลงจังหวะคึกคัก “Here We Go Around Again” และปิดท้ายด้วย "Close My Eyes" เพลงจากอัลบั้ม Butterfly ในปี 1997 ที่นำมาทำใหม่ในแบบอะคูสติค แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นเพลงด้าน บี แต่ก็มีเพลงไพเราะชั้นยอดรวมอยู่ด้วย อย่าง "Do You Think of Me" และ "Slipping Away" รวมถึงเพลงเด่นๆที่ไม่เคยออกมาก่อน เช่น "Loverboy" หรือ "Out Here on My Own" เพลงเอกจากหนังเรื่อง Fame ที่ ไอรีน คารา บันทึกเสียงไว้ในปี 1980 ซึ่ง มาไรอาห์ ร้องเพลงนี้ได้อย่างสุดยอด ส่วนครึ่งหลังเป็นบันทึกการแสดงสดของเธอที่ โตเกียว โดม ประเทศญี่ปุ่น คอนเสิร์ทหนึ่งในการทัวร์เมื่อปี 1995 หลังจากการออกอัลบั้ม Daydream ได้ 5 เดือน แน่นอนว่า ครึ่งหลังนี้เต็มไปด้วยเพลงฮิทระดับโลกที่บรรดานักฟังรู้จักกันดี แบ็คอัพด้วยวงมากฝีมือที่ร่วมเดินทางทัวร์กับเธอ ตอนนั้นต้องบอกว่าเป็นห้วงเวลาที่ มาไรอาห์ แครีย์ ท็อปฟอร์มจริงๆ การร้องเหนือชั้นยากจะหาใครเปรียบ จึงไม่แปลกอะไรที่เธอจะเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่มีอิทธิพลมากที่สุดต่อนักร้องหญิงด้วยกันในยุคต่อๆมา มาไรอาห์ แครีย์ เป็นศิลปินรายหนึ่งที่ขายผลงานได้มากที่สุดตลอดกาล เธอขึ้นสู่สถานะของซูเปอร์สตาร์ด้วยแก้วเสียงที่กังวาน พลังแข็งแรง และระยะเสียงกว้างมาก เข้าขั้นเหนือมนุษย์ปกติ นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถในการทำเพลงได้ทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นเพลงบัลลาดช้าหวาน หรือเพลงเต้นรำที่มีกลิ่นอายของฮิป-ฮอปและอาร์แอนด์บี ในยุคที่เธอเริ่มมีชื่อเสียง มีนักร้องหญิงอีก 2 รายที่ก้าวขึ้นมาในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน และถือเป็นคู่เปรียบของ แครีย์ คือ วิทนีย์ ฮูสตัน และ เซลีน ดิออน แต่เธอทำได้มากกว่า 2 คนนั้นตรงที่เธอมีความสามารถในการแต่งเพลงด้วย แครีย์ แต่งและร่วมแต่งเพลงในผลงานอัลบั้มทุกชุดของเธอ นี่เป็นเครดิตที่ทำให้เธอได้รับการยอมรับมากขึ้น มากกว่าการเป็นเพียงยอดนักร้อง The Rarities ไม่ใช่เพียงอัลบั้มที่ต้องเก็บสำหรับแฟนพันธุ์แท้ของ มาไรอาห์ แครีย์ แต่สำหรับผู้ฟังทั่วไปที่ชอบผลงานคุณภาพด้วย ซึ่งทุกวันนี้การหามาฟังมีทั้งในรูปแบบซีดี, แผ่นเสียงไวนิล หรือจะสั่งซื้อโดยการดาวน์โหลดทางสื่อออนไลน์ ถ้าจะมีคำอะไรฝากไว้สักคำก็คงเป็น “ไม่ควรพลาด”