ปธ.คณะกรรมการสอบวินัยชั้นต้น"เนตร นาคสุข" สั่งไม่ฟ้อง"บอส-วรยุทธ" เรียก"วิชา-เข็มชัย"มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนและข้อกฎหมาย เพื่อตอบคำถามสังคมให้ชัดเจน ขณะที่"เนตร" ยื่นขอความเป็นธรรม คัดค้านตั้งคณะกรรมการสอบวินัย เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 พ.ย.63 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายไพรัช วรปาณิ กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ ประธานคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยชั้นต้น ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าในการสอบสวนความผิดวินัยชั้นต้น นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด จากกรณีสั่งไม่ฟ้องคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องชูกำลังชื่อดัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555ว่า ในฐานะที่เป็น ก.อ.บุคคลภายนอกมาแล้ว 4 สมัย และจบวิชากฎหมายระดับสูง ในการสอบสวนครั้งนี้ตนในฐานะนักกฎหมายจึงต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก โดยคณะกรรมการทุกคนจะแสวงหาความจริงอย่างตรงไปตรงมาโดยปราศจากอคติ เพื่อให้ประชาชนทราบความเป็นไปของขบวนการ ผิดถูกก็ต้องว่าไปตามนั้น ในวันนี้ได้เชิญ นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่นายกรัฐมนตรีเคยตั้งขึ้น ซึ่งนายวิชาเคยดำรงตำแหน่งทั้งผู้พิพากษา อัยการ และปปช. เป็นนักกฎหมายที่วงการให้การยอมรับและน่าเชื่อถือ รวมทั้ง นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อดีตอัยการสูงสุด มาให้ถ้อยคำในฐานะพยาน ในส่วนของนายวิชาจะมีการถามเรื่องประเด็นที่เคยให้ความเห็นในสำนวนว่านายเนตรอาจจะผิดวินัยร้ายแรงจนถึงขั้นต้องโทษคดีอาญามีเหตุผลอะไรและมีบุคคลใดเกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ ส่วนนายเข็มชัยอดีตอัยการสูงสุดนั้น จะเป็นประเด็นเรื่องที่ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เคยสั่งสอบเพิ่มเติมคำร้องขอความเป็นธรรมครั้งที่ 14 นั้น ชอบหรือไม่ และเมื่อนายเนตรสั่งคดีไปแล้วมีหลักเกณฑ์ที่จะต้องให้ผู้บังคับบัญชาทราบอีกครั้งหรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบว่าการสั่งสอบเพิ่มเติมอาจจะต้องส่งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ การมอบอำนาจนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ มีขั้นตอนอย่างไรและกระทำการผิดขั้นตอนหรือไม่ ประเด็นนี้จึงต้องสอบให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อตอบคำถามสังคม ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องเรียกใครมาสอบบ้าง นายไพรัช กล่าวว่า นอกจาก นายวิชา มหาคุณ และนายเข็มชัย ชุติวงศ์ แล้ว ก็ได้เชิญ นายไพบูลย์ ถาวรวิจิตร อดีตรองอัยการสูงสุด ที่เคยเป็นหัวหน้าคณะทำงานที่ อสส. เคยตั้งขึ้นมาสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และได้ให้ความเห็นไว้ 3 แนวทาง เราก็จะเชิญมาถามว่า 3แนวทางที่เคยให้ไว้ซึ่งในสำนวนมีทั้งเห็นว่าการสั่งคดีของนายเนตรชอบและไม่ชอบ เราจึงเชิญมาให้ความเห็นว่าแนวทางไหนจึงจะชอบและให้รับรองสำนวนที่เคยสอบไว้ ส่วนนายเนตรนั้นเราเคยเชิญไปแล้ว แต่นายเนตรแจ้งว่าติดข้อขัดข้อง เราก็เชิญไปอีกครั้งในวันที่ 23 พ.ย.นี้ หากยังไม่มาก็ต้องทำหนังสือชี้แจง ซึ่งเราก็อาจจะต้องเชิญอีกเป็นครั้งที่ 3 ถ้ายังไม่มาอีกทางคณะกรรมการสอบสวนก็อาจจะถือว่าไม่ติดใจชี้แจง ส่วนความเห็นคาดว่าเราจะสรุปได้ในช่วงต้นเดือนธ.ค.แต่ความเห็นจะไปทิศทางใดนั้นต้องฟังคณะกรรมการทั้ง 5 คน ตนในฐานะประธานต้องเป็นกลางแต่อาจให้ข้อแนะนำได้ โดยกรรมการทั้ง 5 คน จะต้องทำความเห็นส่วนตัวคล้ายๆกับศาล ทำความเห็นมาว่านายเนตรผิดวินัย หรือวินัยร้ายแรงหรือไม่ หรือการกระทำไม่ผิดให้ทำความเห็นมายังตน เพื่อรวบรวมส่ง ก.อ.ชุดใหญ่ ถ้าก.อ.เห็นว่าผิดวินัยร้ายแรงก็จะต้องตั้งกรรมการชุดสุดท้าย 3 คน ระดับอัยการชั้นผู้ใหญ่พิจารณาต่อไป ในส่วนคณะกรรมการชั้นต้นที่ตนเป็นประธานนี้ขอให้มั่นใจ เพราะความเห็นของกรรมการรายบุคคลน่าจะเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อตอบสังคมได้ ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. นายวิชาเดินทางมาตามนัดให้ถ้อยคำตามคำเชิญของคณะกรรมการสอบสวนฯ ซึ่งภายหลังเข้าพบคณะกรรมการ นายวิชา เปิดเผยว่า วันนี้มาเพียงรับทราบและให้การยืนยันตามที่ส่งเอกสารรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงให้กับ ก.อ.ไปก่อนหน้านี้ ส่วนจะมีใครนอกจากนายเนตรเกี่ยวข้องการสั่งไม่ฟ้องคดีนั้น ตนไม่ทราบ ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า นายเนตรได้ยื่นคำร้องถึงประธาน ก.อ. ให้นำเรื่องเข้า ก.อ.เพื่อพิจารณาคัดค้านคณะกรรมการการสอบสวนชั้นต้นดังกล่าว เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนมีการเรียกสอบโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบและให้ทำการคัดค้าน รวมถึงประธานกรรมการสอบมีการให้ข่าวกับสื่อมวลชนก่อน จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยทาง ก.อ.จะมีการพิจารณาคำร้องของนายเนตรในการประชุม ก.อ.ครั้งต่อไป วันที่ 30 พ.ย.นี้ ในวันนี้จึงยังไม่ได้มีการสอบถามถ้อยคำนายวิชา และนายเข็มชัย แต่อย่างใด