SO มั่นใจผลงานไตรมาส 4 เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่กำไรโตสวนกระแสเศรษฐกิจและวิกฤติโควิด-19 หลังลูกค้าใหม่ทั้งภาครัฐและเอกชนพาเหรดมาใช้บริการOutsource เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหลังวิกฤติโควิด-19 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนและลดภาระระยะยาว โดยเข้ามาใช้บริการครอบคลุมทุกธุรกิจของบริษัท คาดทั้งปีรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ที่ 18% จ่ายปันผลผู้ถือหุ้นเต็มสูบ นายจิรณุ กุลชนะรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้ประกอบธุรกิจการจ้างเหมาบริการครบวงจรชั้นนำระดับประเทศ เปิดเผยว่า แนวโน้มผลดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 4 ปี 2563 จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิเติบโต สวนวิกฤติโควิด-19 และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เนื่องจากบริษัทมีฐานทุนและฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง สามารถหางานใหม่ๆเข้ามาได้มากขึ้น ทั้งลูกค้าเดิมที่จ้างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งสัดส่วนการต่อสัญญาของลูกค้าเดิมยังสูงกว่า 90% และลูกค้ารายใหม่ รวมทั้งการขยายบริการใหม่ๆ ต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทให้เติบโตมากขึ้น ทั้งนี้วิกฤติโควิด-19 ผลักดันให้ภาครัฐและธุรกิจเอกชนให้ความสำคัญกับการใช้ Outsource ด้านบุคลากรมากขึ้น เพื่อลดต้นทุน ลดภาระองค์กรในระยะยาวและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ทำให้ขณะนี้ มีกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ติดต่อเข้ามายังบริษัทแสดงความสนใจใช้บริการงาน Outsource ด้านบุคลากรในหลายกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจอาหาร อสังหาริมทรัพย์ โลจิสติกส์ การพัฒนาเทคโนโลยี บรรจุภัณฑ์ โรงแรม และกลุ่มโรงพยาบาล เป็นต้น สำหรับลูกค้าใหม่ในไตรมาส 4 ที่เซ็นสัญญาจ้างงานกับบริษัทแล้วเช่น สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน),บริษัท อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทย จำกัด (มหาชน),สถาบันอุทยานการเรียนรู้, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง,อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ,ท่าอากาศยานดอนเมือง,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,บริษัท สยามไอซิน จำกัด,องค์การเภสัชกรรม,กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม,กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง,ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย,การท่าเรือแห่งประเทศไทย,คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,สำนักงานตรวจสอบ สภากาชาดไทย,โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี,บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ พีทีวาย จำกัด,บริษัท เทเลโทรลวัน จำกัด,บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป และบริษัท เอส เอ ไอ เทคโนโลยี เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นต้น “ลูกค้าใหม่ มีการจ้างงานครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจที่บริษัทให้บริการได้แก่ 1.SO People บริการบริหารจัดการด้านบุคลากร เช่น พนักงานประจำออฟฟิศ พนักงานขับรถ 2.SO Green บริการดูแลภูมิทัศน์ สวนขนาดใหญ่ 3.SO Wheel รถยนต์ให้เช่า และ 4. SO Next บริการบริหารจัดการงานบันทึก” ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 63 บริษัทมีการเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจที่ซบเซาจากวิกฤติโควิด-19 โดยมีกำไรสุทธิ 41.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.91% จากไตรมาส 2 ปี 63 ที่มีกำไรสุทธิ 25.31 ล้านบาทและเพิ่มขึ้น 44.22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 28.94 ล้านบาท ส่งผลให้งวดรวม 9 เดือน สิ้นสุด 30 ก.ย.63 มีกำไรสุทธิ 100.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.86 %จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 76.97 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากการลดต้นทุนและนำไอทีเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และคาดว่าทั้งปีอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจะอยู่ที่ 17-18% “บริษัทขอให้ความมั่นใจกับผู้ถือหุ้นหุ้นและนักลงทุนว่าจะมุ่งมั่นสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งจะเห็นว่างวดครึ่งแรกของปี 63 คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานงวด ม.ค.-มิ.ย.63 หุ้นละ 0.16 บาทต่อหุ้น หรือจ่ายปันผลในอัตรา 80% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมายแล้ว และถือว่าจ่ายเกินนโยบายที่กำหนดจ่ายไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ”