“SUPER”ส่งสัญญาณบวก เตรียมCODโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ในประเทศเวียดนามเพิ่มอีก 550 เมกะวัตต์ไตรมาส 4 นี้ หลังรับรู้รายได้จากโครงการ Sinenergy Ninh Thuan ในเวียดนาม ขนาดกำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ก่อนหน้า เชื่อผลงานแตะนิวไฮต่อเนื่องปีนี้–ปีหน้า แย้มโครงการวินด์ฟาร์ม คืบหน้าทยอยก่อสร้างต่อเนื่อง ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานมีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในปีนี้ และปีหน้า เนื่องจากจากการรับรู้รายได้จากการขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ทั้งจากโรงไฟฟ้าเดิม และโรงไฟฟ้าใหม่ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามอีก 3โครงการ มีขนาดกำลังการผลิตรวม 550 เมกะวัตต์ โดยจะทยอย COD ภายในเดือนธันวาคม 2563 ตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้ยังมีการทยอยรับรู้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะเพิ่มเติม ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 171 เมกะวัตต์ และ 250 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการเร่งก่อสร้างคาดว่าจะทยอย COD ได้ภายในปี 2564 รวมทั้งการควบคุมประสิทธิการบริหารต้นทุนให้ดีขึ้น โดยแม้สถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่เรายังเชื่อว่าทิศทางไตรมาส 4/2563 น่าจะเติบโตได้อย่างโดดเด่น และดีต่อเนื่องในปีหน้าเนื่องจากจะมีการทยอย CODโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามอีก 3โครงการ มีขนาดกำลังการผลิตรวม 550 เมกะวัตต์ เข้ามาช่วงปลายปี รวมทั้งรับรู้โครงการ Sinenergy Ninh Thuan ในเวียดนาม ขนาดกำลังผลิต 50 เมกะวัตต์เพิ่มที่ได้มีการโอนหุ้นเสร็จสิ้น และรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะสนับสนุนเพิ่ม ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,927.65 ล้านบาท กำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 1,355.56 ล้านบาท คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตประมาณ 15-20% เนื่องจากมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มถึง 1,200-1300 เมกะวัตต์ ขณะที่มีแผนจะเข้าลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 2-3 โครงการ