คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Sudarat Keyuraphan ระบุข้อความว่า...บันได 3 ขั้น สู่ทางออกประเทศไทย “สร้างพื้นที่ปลอดภัย – แก้ไขรัฐธรรมนูญ – คืนอำนาจ ปชช.”วิกฤติการเมืองหนนี้ ถูกผูกด้วยเงื่อนปมหลายชั้น หลายปัญหา หากไม่เร่งสางปมตั้งแต่วันนี้ ก็อาจสายเกินการณ์ เมื่อหนก่อนดิฉันได้พูดถึง “ข้อเสนอต่อการแสวงหาทางออกให้ประเทศ” ผ่านการนำหลักความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน (Transition Justice) และความยุติธรรมในเชิงสมานฉันท์ (Retroactive Justice) มาใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาของประเทศเป็นการเร่งด่วน ในสถานการณ์วันนี้ที่มีการชุมนุมต่อเนื่องรายวัน และรัฐบาลยังนิ่งเฉย ไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องใดใดของผู้ชุนนุม ซ้ำยังมีการสร้างความเกลียดชังระหว่างกันให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ดิฉันขอนำเสนอถึง “บันได 3 ขั้น สู่ทางออกประเทศไทย” ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถปฏิบัติได้ทันที บันไดขั้นที่ 1 : ตั้ง “คณะกรรมการเพื่อการแสวงหาทางออกประเทศไทย” คณะกรรมการฯ ชุดนี้ ตั้งโดยมีกฎหมายรองรับ มีการกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน เช่นต้องจบภายใน 3 - 5 เดือน มีองค์ประกอบและมีส่วนร่วมที่หลากหลายที่มีความเป็นกลางอย่างแท้จริงและต้องมีผู้เห็นต่าง โดยเฉพาะนักเรียน นิสิตนักศึกษาร่วมนั่งเป็นกรรมการ คณะกรรมการฯ ชุดนี้ อาศัยกลไก “กระบวนการยุติธรรมในช่วงเปลี่ยน” เป็นแนวทางในการดำเนินงาน นั่นคือ เป็นเวทีและพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุย ต้อง”ยุติการดำเนินคดี”ไว้ก่อน ในระหว่างการพูดคุยต้องไม่มีการดำเนินคดีไม่ว่าทางใดๆ ต่อผู้มีความเห็นต่างทางการเมือง ปล่อยตัวผู้ชุมนุม ยกเลิกการตั้งข้อหาเพื่อกลั่นแกล้ง ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อกัน ให้หลังจากนั้น จึงประมวลมติความเห็นจากการพูดคุยของคณะกรรมการฯ นำเสนอสู่รัฐสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อเสนอที่เห็นพ้องไปสู่การปฏิบัติจริง หากหน่วยงานไม่นำไปปฏิบัติถือเป็นความผิดตามกฏหมาย บันไดขั้นที่สอง : แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการเร่งด่วน นำไปสู่ “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน”เป็นไปตามที่เคยประเมินกันไว้ คือถึงที่สุดแล้ว รธน.60 คือระเบิดเวลาที่นำพาประเทศมาสู่ทางตันในวันนี้ โดยเฉพาะกลไก 250 สว. ที่ทำให้การสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ และเครือข่าย ดำเนินต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ขอเรียนว่า จนถึงวันนี้ ยังไม่เห็นความจริงใจของ พล.อ.ประยุทธ์ และสมาชิกวุฒิสภา ที่จะยอมรับว่าตัวเองเป็นใจกลางของปัญหาบ้านเมือง และเดินหน้าแก้ไข รธน.60 ในแง่นี้ รัฐสภาจึงจำเป็นต้องเร่งผ่านร่างแก้ไข รธน. ทั้งร่างที่เสนอโดยพรรคฝ่ายค้าน พรรครัฐบาล และร่างของภาคประชาชนที่ผ่าน ILaw มาพิจารณาให้แล้วเสร็จ ทั้ง 3 วาระภายในต้นเดือนธันวาคม เร่งให้มีการเลือก สสร. เพื่อให้เป็นตัวแทนประชาชน ไปร่าง “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน ประเด็นการแก้ไข รธน. ขอเน้นย้ำให้ตัดอำนาจ สว. ไม่ให้มีสิทธิ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป . บันไดขั้นที่สาม : นายกประยุทธ์ต้องลาออกหลังสภาผ่านร่างแก้ไข รธน. ในต้นเดือนธันวาคม วันนี้ นายกรัฐมนตรีต้องยอมรับว่าตัวเองคือใจกลางของปัญหาบ้านเมือง จำเป็นต้องลาออก เพื่อเปิดทางให้สภาผู้แทนราษฎรได้เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยมีรัฐบาลใหม่ ทำหน้าที่สนับสนุนให้เกิด “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ให้แล้วเสร็จภายใน 8 เดือน ต่อจากนั้น ต้องเร่งคืนอำนาจให้ประชาชน “เลือกตั้งใหม่” ไม่เกินปลายปี 2564 ภายใต้ “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ที่ไม่มีกลไกอันบิดเบี้ยว คอยบิดเบือนมติของประชาชน รธน.ใหม่ จะนำไปสู่โอกาสในการออกแบบประเทศไทย ปลดล็อกคนไทยจากการสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหารที่ดำเนินมาต่อเนื่องยาวนาน. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานก่อตั้งสถาบันสร้างไทย