วันที่ 12 พ.ย.63 พล.ร.ท.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ตามที่มีผู้แทนกองทัพสาธารณรัฐเกาหลี ที่เดินทางกลับประเทศ ตรวจพบว่าติดเชื้อ โควิด- 19 ในส่วนของกองทัพเรือได้สั่งการให้หน่วยต่าง ๆ เพิ่มมาตรการป้องกัน และกำชับกำลังพลและครอบครัวให้เพิ่มการระมัดระวังและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค ศบค. เร่งตรวจสอบรายชื่อกำลังพล กองทัพเรือ ที่มีส่วนร่วมในการประชุม พบว่ามีจำนวนรวมทั้งสิ้น 82 นาย จึงได้ประสานให้กำลังพลทั้งหมดเข้ารายงานตัว และทำการตรวจสารคัดหลั่งที่อาคารรับรองสัตหีบ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งให้เข้าพักสังเกตอาการ อาคารรับรองสัตหีบ จำนวน 14 วัน ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ชุดแพทย์ จากกรมแพทย์ กองทัพเรือ ได้ทำการตรวจคัดกรองและแบ่งแยกผู้มีความเสี่ยงกำลังพลทั้ง 82 นาย โดยผู้มีความเสี่ยงมาก ให้เข้าพักอาคารรับรอง ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำลงมา ให้ไปกักตัวที่บ้าน 14 วัน โดยเข้าอาคารรับรอง จำนวน 51 นาย ซึ่งทุกนายผลการตรวจพบว่าออกมาเป็นลบ ส่วนอีก29 นาย ให้กักตัวที่บ้าน และไม่เข้าข่าย 2 นาย
“กองทัพเรือ ได้เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยให้หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่ ศบค. กระทรวงสาธารณสุข และ กองทัพเรือ สั่งการโดยเคร่งครัด เช่น มาตรการคัดกรองการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม และการหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความแออัด เป็นต้น โดยปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นสิ่งที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้ความสำคัญและถือเป็นนโยบายเร่งด่วน โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยของกองทัพเรือ เตรียมความพร้อมและระดมขีดความสามารถทุกรูปแบบในการสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว”
“กองทัพเรือ ได้เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยให้หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่ ศบค. กระทรวงสาธารณสุข และ กองทัพเรือ สั่งการโดยเคร่งครัด เช่น มาตรการคัดกรองการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม และการหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความแออัด เป็นต้น โดยปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นสิ่งที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้ความสำคัญและถือเป็นนโยบายเร่งด่วน โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยของกองทัพเรือ เตรียมความพร้อมและระดมขีดความสามารถทุกรูปแบบในการสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว”