เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 37 และการประชุมที่เกี่ยวข้องผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยประธานาธิบดีเวียดนามได้กล่าวต้อนรับ และนายกรัฐมนตรีเวียดนามในฐานะประธานจัดการประชุมได้กล่าวเปิดการประชุมฯ ซึ่งได้ย้ำเจตนารมณ์ของเวียดนามที่จะขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ตามแนวคิดหลักการเป็นประธานอาเซียนปี 2563 “แน่นแฟ้นและตอบสนอง” (Cohesive and Responsive) จากนั้นเป็นการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 37 (Plenary) โดยมีผู้นำและผู้แทนผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนจากทั้ง 10 ประเทศ เลขาธิการอาเซียนเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้นายโอน ปวนมุนีรวต รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เศรษฐกิจและการคลัง เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเข้าร่วมประชุม โดยนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวเปิดย้ำวัตถุประสงค์ของการประชุม เพื่อขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็ง เสริมสร้างความร่วมมือและติดตามความคืบหน้าของข้อริเริ่มต่าง ๆ ของอาเซียนเพื่อรับมือกับผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หารือความร่วมมือกับภาคีภายนอกของอาเซียน และแลกเปลี่ยนทัศนะต่อสถานการณ์ในการพัฒนาที่สำคัญในภูมิภาคและระหว่างประเทศ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวแสดงข้อคิดเห็นและเสนอทิศทางขับเคลื่อนกลไกของอาเซียน ย้ำถึงความเข้มแข็งและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของอาเซียนเพื่อผ่านพ้นวิกฤตนี้ การรับมือการแพร่ระบาดและผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งนายกฯ เสนอ 4 ประเด็นคือ ความร่วมมือด้านสาธารณสุขเพื่อให้วัคซีนโควิด-19 เป็นสินค้าสาธารณะ ให้ทุกประเทศใช้ประโยชน์จากกองทุนอาเซียน ซึ่งไทยยินดีสนับสนุนคลังสำรองอุปกรณ์ทางการแพทย์อาเซียนสำหรับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข พร้อมสมทบเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ตลอดจนพร้อมที่จะเป็นที่ตั้งของศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม ส่งเสริมฟื้นฟูและเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 แบบบูรณาการ และร่วมรับรองกรอบการฟื้นฟูที่ครอบคลุมของอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง อาเซียนต้องร่วมมือรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการรับมือกับการแพร่ระบาดและการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 ที่ทุกฝ่ายต้องแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างเพื่อป้องกันการเผชิญหน้าในภูมิภาคและเพิ่มพูนความร่วมมือที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย (win-win cooperation) นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชื่นชมบทบาทนำของเวียดนามในฐานะประธานอาเซียน ที่ได้เสริมสร้างความร่วมมือของอาเซียนภายใต้แนวคิดหลัก แน่นแฟ้นและตอบสนอง ผ่านข้อริเริ่มต่าง ๆ ซึ่งไทยพร้อมร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อความแข็งแกร่งของประชาคมอาเซียน พร้อมกันนีสนับสนุนประเทศบรูไน ในการเป็นประธานอาเซียนปีหน้าอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมสร้างภูมิคุ้มกันต่อความท้าทายและขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป