สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะทำงานด้านการรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม ในการร้องค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรัฐต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ร้องค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่รัฐมิชิแกน ด้วยการยื่นฟ้องต่อศาลตุลาการรัฐบาลกลาง (Federal Court) เพื่อขอมิให้รัฐดังกล่าว ประกาศรับรองผลเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันอังคารที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ รัฐมิชิแกน ถือเป็นรัฐสมรภูมิ หรือสวิงสเตท ในเขตมิดเวสต์ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เคยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2559 โดยผลการนับคะแนนที่รัฐดังกล่าวอย่างไม่เป็นทางการ ล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์ ตามหลังนายโจ ไบเดน ผู้สมัครฯ จากพรรคเดโมแครต อยู่ประมาณ 148,000 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 2.6 ขณะที่ สถานการณ์เลือกตั้งที่รัฐจอร์เจีย ปรากฏว่า เลขาธิการรัฐ ได้ประกาศให้นับคะแนนใหม่ทั้งหมด โดยการนับคะแนนใหม่ จะใช้วิธีการนับด้วยมือ ซึ่งคาดจะมีขึ้นในปลายสัปดาห์นี้ และจะต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 พ.ย. อันเป็นวันกำหนดเส้นตายสำหรับรับรองผลเลือกตั้ง ทั้งนี้ การนับคะแนนใหม่ดังกล่าว เป็นผลจากการร้องเรียนของทีมหาเสียงประธานาธิบดีทรัมป์ โดยอ้างหลักฐานว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้วจำนวนหนึ่ง ปรากฏในรายชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย สำหรับ รัฐจอร์เจีย เป็นรัฐทางตอนใต้ ซึ่งพรรคเดโมแครต ไม่เคยชนะเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี 2535 แต่การนับคะแนนล่าสุด นายไบเดน กลับมีคะแนนนำประธานาธิบดีทรัมป์ราว 14,000 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.3