เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงชวนคนไทยทุกคนออกไปช่วยเมืองไทย ออกไปเที่ยวเมืองไทย ไปขึ้นภูชมทะเลหมอก เพราะเป็นช่วงที่แหล่งท่องเที่ยวงดงาม ด้วยธรรมชาติได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นช่วงปลายปีที่มีวันหยุดยาวๆ รีบวางแผนการเดินทางในแบบที่ต้องการ ซึ่งนอกจากจะได้ประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดอะเมซิ่งแล้ว ยังได้ออกช่วยชาติ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ และช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอีกด้วย ภูสอยดาว เริ่มต้นด้วยการพิชิตยอด 2,102 ภูสอยดาวสุดโหด จังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่ต้องแปลกใจที่ ภูสอยดาว จะอยู่ในลิสต์แหล่งท่องเที่ยวแนะนำปลายปีแทนที่จะเป็นเที่ยวฤดูฝน เพราะนอกจากทุ่งดอกหงอนนาคกับวิวต้นสนในม่านหมอกบริเวณลานสน(จุดกางเต้นท์) ภูสอยดาวยังมีจุดไฮไลท์ในหน้าหนาวสำหรับขาโหดที่ต้องการพิชิตยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย ในระดับความสูง 2,102 เมตร ซึ่งการจะพิชิตยอดภูสอยดาวนั้นสามารถขึ้นได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น เปิดให้ขึ้นเพียง 3 เดือนหลังจากผ่านพ้นฤดูฝนอันเปียกชื้น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – มกราคม จากลานสนใช้เวลาเดินไปกลับ 7-8 ชั่วโมง ระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร แต่เส้นทางมีความชัน ซึ่งบางจุดชันถึง 90 องศา ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการนำทางเท่านั้น พร้อมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย เช่น เชือก หมวก และถุงมือ ภูกระดึง ภูกระดึง อีกทั้งต้นหนาวแบบนี้ เชื่อว่าสายเดินป่าหลายคนคงคิดถึง ภูกระดึง เป็นที่แรก แม้จะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวใหม่สำหรับหลายๆ คน แต่ก็สามารถไปแล้วไปอีกได้เป็นสิบๆ ครั้ง เป็นตำนานของการเดินป่า ตำนานของหมูกะทะหลังเดินป่า ตำนานของมิตรภาพที่อาจเริ่มหรือจบ ภูกระดึงเหมือนเป็นจุดตั้งต้นของการเดินป่า เป็นจุดเริ่มต้นของความทรงจำ และอาจเป็นจุดที่อยากส่งต่อประสบการณ์ดีๆ ให้ผู้อื่นได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ด้วยความที่เส้นทางเดินป่าไม่ยากมาก สามารถชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาได้ง่ายๆ มีชุดชมวิวและธรรมชาติหลายจุด ที่พักสะดวกสบาย ทั้งยังสามารถเดินทางเข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องวางแผนมากมาย ขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิตตอนกลางคืน ตอนเช้าก็ถึงจุดหมาย อาจจะแวะอาบน้ำ ต่อสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ราคาไม่แพงไม่ยุ่งยาก มาเมื่อไหร่ก็ได้ขอเพียงมีใจพร้อม และภูเปิด โดยอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเปิดให้ขึ้นระหว่างเดือนตุลาคม – พฤษภาคมของทุกปี อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ส่วนนักท่องเที่ยวสายสัตว์โลกผู้น่ารัก ชื่นชมกับเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่แสนพิศวงแห่งท้องทุ่งเมืองไทย ในช่วงต้นฤดูหนาวนี้ ป่าใน เขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จะค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ เนื่องจากเพิ่งผ่านพ้นช่วงฤดูฝนมาใหม่ๆ สัตว์ป่า โดยเฉพาะ ช้าง กระทิง วัวแดง และอื่นๆ มักจะออกมาหากินตามแหล่งน้ำและทุ่งหญ้าค่อนข้างมาก สามารถพบเห็นได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงค่ำ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ตามเวลาที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีกำหนด และต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่เป็นการกระทบสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ป่า ถ้ำมรกต ขณะที่สาวกสายลมสองเรา คงจะไม่พลาดกับความพิเศษของ หาดทรายขาวในห้องลับ ถ้ำมรกต เกาะมุกต์ จังหวัดตรัง แม้ถ้ำมรกต จะเป็นสถานที่ที่รู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้วสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ยังมีมนต์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปค้นหาอยู่เสมอ กับความลึกลับ ท้าทาย ซึ่งต้องรอเวลาที่เหมาะสมให้น้ำลด ลอยคอ เกาะเชือก ดำน้ำ มุดผ่านถ้ำมืดๆ เพื่อจะไปพบกับ ห้องโถงเล็กๆ ที่มีน้ำทะเลสีเขียวมรกต หาดทรายเล็กสีขาว มีป่าและหน้าผาหินปูนสูงชันโอบล้อมเหมือนเป็นห้องลับส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครเห็น โดยถ้ำมรกตแห่งนี้ อยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมเริ่มเปิดให้ท่องเที่ยวหลังฤดูมรสุมตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา สะพานหินเกาะลิบง นอกจากนั้นยังมีสะพานหิน เกาะลิบง ที่เกิดจากหินภูเขาขนาดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล และถูกน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่ง เห็นเป็นรูปร่างที่สวยงาม เป็นเหมือนสะพานที่ทำจากหิน โดยด้านบนนักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามไปมาได้ และด้านล่าง มีโพรงขนาดใหญ่มองลงมาเห็นน้ำทะเล ที่กำลังซัดขึ้นฝั่งอย่างสวยงาม เหมาะแก่การถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน