29 ก.ค. 59 - นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 27 – 28 ส.ค. ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ จ.กำแพงเพชร จ.อุทัยธานี และจ.แม่ฮ่องสอน โดยจ.กำแพงเพชร มีน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรใน ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี รวม 3 หมู่บ้าน ระดับน้ำท่วมทรงตัว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่จ.อุทัยธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.สว่างอารมณ์ รวม 3 ตำบล ได้แก่ ต.บ่อยาง ต.หลวงสองนาง และต.ไผ่เขียว บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 25 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมขัง 8,880 ไร่ คันคลองข่อยเป้าถูกน้ำซัดเสียหายกว้าง 6 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำท่วมลดลงอย่างต่อเนื่อง นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ด้านจ.แม่ฮ่องสอน น้ำไหลหลากเข้าท่วมต.ผ่าบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลัง และทรัพยากรปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งเร่งตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ รวมถึงดำเนินการซ่อมแซมคันคลองที่ได้รับความเสียหายให้อยู่ในสภาพปกติ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และฝนตกหนักบางแห่ง ปภ. จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย 16 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู อุดรธานี และหนองคาย ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา และกระบี่ เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดภัย อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยได้ทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ศูนย์ฯ เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 76 จังหวัด และสำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดสาขา 30 สาขาใน 16 จังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป