ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ประเทศอังกฤษ ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-2021 คืนวันที่ 8 พ.ย.63 ระหว่างทีม "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" พบกับทีม "ลิเวอร์พูล" เริ่มการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกมาได้เพียงแค่ 11 นาที ลิเวอร์พูล มาได้จุดโทษ จากจังหวะท่ โรเบิร์ตสัน แทงบอลไปให้ มาเน่ พลิกเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนโดน วอล์คเกอร์ เข้ามาสกัดด้านหลังล้มลงไป กรรมการเป่าทันที แล้วเป็น ซาลาห์ รับหน้าที่สังหารเองแปไปทางซ้ายเข้าประตูไป ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 ต่อมาในนาทีที่ 25 แมนฯซิตี้ เกือบตีเสมอได้ จากจังหวะที่ ไวจ์นาลดุม โดนฉกบอลไปได้ เดอ บรอยน์เติมมาทางขวาก่อนเปิดยาวไปทางเสาไกล ราฮีมได้เหน่งๆ แล้วแต่ยิงไปติดเซฟของอลิสซอนที่ออกมาปิดมุมเอาไว้หมด กระทั่งในนาทีที่ 31 แมนฯซิตี้ มาตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะของ เชซุส ที่รับบอลที่เดอ บรอยน์ ยัดมาให้ก่อนพลิกเอาเทรนท์หลงไปเลยก่อนดีดบอลสวนตัวของอลิสซอนเข้าประตูไป จากนั้น ในนาทีที่ 39 ลิเวอร์พูลมาเสียจุดโทษ จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ ครอสบอลจากด้านขวาเข้ากลางแล้วบอลไปโดนข้อศอกของ โกเมส ที่พยายามเอี้ยวตัวหลบ กรรมการไม่ว่าอะไรให้ไปดู VAR สุดท้ายเป็นจุดโทษ แล้วเป็น เดอ บรอยน์เป็นคนยิงเองซัดหักข้อไปทางซ้าย อลิสซอน พุ่งไปคนละทางแล้ว แต่บอลหลุดเสาไปแบบไม่น่าเชื่อ จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ที่ 1-1 เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง รูปเกมเปิดแลกกันสนุกเหมือนเเดิม ในนาทีที่ 57 เชซุส เก็บบอลม้วนหาช่องจ่ายให้เดอ บรอยน์ วางเท้ายิงหน้าเขตโทษบอลโด่งข้ามคาน นาทีที่ 58 หงส์แดง แก้เกมถอด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ออกมา และส่ง เซอร์ดาน ชากิรี่ ลงแทน และ 2 นาทีต่อมา แมนฯ ซิตี้ ปรับคนแรกเช่นกันส่ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ลงแทน เฟร์ราน ตอร์เรส นาทีที่ 63 แชมป์เก่าเจอข่าวร้ายเมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงมายืนแบ็กขวาแทน กระทั่งจบเกมเสมอกันไป 1-1