สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรดาประชาชนชาวสหรัฐฯ ที่ให้ความสนับสนุนต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกัน ยังคงรวมตัวชุมนุมในพื้นที่หลายรัฐ เช่น มิชิแกน เซาท์แคโรไลนา เพนซิลเวเนีย เป็นต้น เพื่อประท้วง และปฏิเสธที่จะยอมรับความปราชัย ในผลการเลือกตั้งที่ออกมาว่า อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคเดโมแครต เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีขึ้นในครั้งนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมข้างต้น ต่างพากันตะโกนด้วยข้อกล่าวหาว่า นายไบเดน ชนะเลือกตั้งการทุจริต และว่า “เรื่องนี้มันต้องไม่จบ (It's not over.)” และว่า “หยุดขโมยคะแนนเสียง (Stop th steal.)” เพื่อประท้วงต่อผลชัยชนะการเลือกตั้งของนายไบเดน ขณะเดียวกัน ทางด้านคณะทำงานด้านการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลฎีกาในรัฐแอริโซนา ด้วยข้อกล่าวหาว่า เทศมณฑลมาริโคปาเคาน์ตี้ ซึ่งเป็นเคาน์ตีที่มีประชากรมากที่สุดของรัฐแอริโซนา ดำเนินการไม่ยอมรับอย่างไม่ถูกต้องต่อการลงคะแนนของผู้ที่ไปสิทธิเลือกตั้งจำนวนหนึ่งในวันเลือกตั้งเมื่อวันอังคารที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยคณะทำงานฯ ของทรัมป์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ประจำคูหาเลือกตั้งในเคาน์ตี้ดังกล่าว บอกให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งกดปุ่มหลังจากเครื่องลงคะแนนตรวจพบว่า มีการใช้คะแนนซ้ำ ซึ่งเท่ากับว่า ไม่ยอมรับคะแนนของผู้ใช้สิทธิฯ ดังกล่าว ซึ่งมีเป็นจำนวนหนึ่ง ที่อาจชี้ขาดผลการเลือกตั้งได้ อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานเลขานุการของรัฐแอริโซนา แถลงไม่ยอมรับคำฟ้องร้องข้างต้น โดยระบุว่า เป็นเพียงกลอุบายเพื่อชะลอการประกาศคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้น