สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโจ ไบเดน พร้อมด้วยนางกมลา แฮร์ริส ว่าที่ประธานาธิบดี และว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ แห่งพรรคเดโมแครต ได้แถลงต่อประชาชนชาวอเมริกันทั้งประเทศ ภายหลังจากทราบผลคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง หรืออิเล็กโทรัลโหวต แบบคาดการณ์ว่า ได้รับชัยชนะที่รัฐเพนซิลเวเนีย ทำให้ได้จำนวนอิเล็กโทรัลโหวตเกิน 270 เสียง ซึ่งถือมีชัยชนะเหนือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และส่งผลให้ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ หรือคนที่ 46 ของประเทศ รายงานข่าวแจ้งว่า นายไบเดน วัย 78 ปี พร้อมด้วยนางแฮร์ริส วัย 56 ปี ได้จัดงานแถลงที่เชสเซ็นเตอร์ ในเมืองวิลมิงตัน ซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดของนายไบเดน รัฐเดลาแวร์ เมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ตามวันเวลาในไทย โดยนางแฮร์ริส เป็นผู้กล่าวเปิดการแถลงก่อน ด้วยการเอ่ยถึงบันทึกของนายจอห์น ลูอิส ส.ส.รัฐจอร์เจีย พรรคเดโมแครต ที่ถึงแก่กรรมเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่สถานะ แต่คือการกระทำ และประชาธิปไตยของสหรัฐฯ มีความน่ายินดี มีความก้าวหน้า ประชาชนทุกคนมีอำนาจที่จะสร้างอนาคตให้ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมกันนี้ นางแฮร์ริส กล่าวต่อว่า ประชาชนทุกคนได้นำพาสหรัฐฯ เข้าสู่วันใหม่ เลือกความหวัง ที่จะนำไปสู่ความเป็นเอกภาพ ความเหมาะสม ความจริง และเป็นวิทยาศาสตร์ ก่อนกล่าวยกย่องต่อนายไบเดนว่า จะเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ที่จะมาเยียวยา กอบกู้จุดหมายของชาวอเมริกันให้กลับมาอีกครั้ง และนายไบเดน มีความกล้าหาญต่อการทลายกำแพงทางเพศ ที่เลือกตน ซึ่งเป็นสตรีมาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งคู่ชิงรองประธานาธิบดี จนได้เป็นรองประธานาธิบดีที่เป็นสตรีคนแรก และเชื่อว่า ตนจะไม่ใช่คนสุดท้ายอย่างแน่นอน ขณะที่ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ แถลงว่า ตนได้รับความเชื่อถือและเชื่อมั่นจากประชาชนชาวสหรัฐฯ สนับสนุนให้มาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีนี้ มิใช่เพื่อแสวงหาความแตกแยก แต่เพื่อให้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวของชาวอเมริกัน โดยตนไม่ได้มองรัฐไหนเป็นรัฐแดง (รัฐที่เลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกัน) หรือรัฐน้ำเงิน (รัฐที่เลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคเดโมแครต)