สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 ได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อวันอังคารที่ 3 พ.ย. ตามวันเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันอย่างดุเดือดเข้มข้น ระหว่างสองผู้สมัครรับเลือกตั้ง ได้แก่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 74 ปี จากพรรครีพับลิกัน กับอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน วัย 78 ปี จากพรรคเดโมแครต ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งถึงวันสุดท้ายก่อนการหย่อนบัตรเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่รัฐสมรภูมิ หรือรัฐสวิงสเตท ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร รายงานข่าวแจ้งว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าตามรัฐต่างๆ เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีตัวเลขออกมระบุว่า มีจำนวนมากกว่า 95 ล้านคน ที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้นราว 250 ล้านคน ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งสหรัฐฯ ยุคปัจจุบัน ท่ามกลางบรรยากาศการตื่นตัวทางการเมืองของชาวอเมริกัน และความหวั่นเกรงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 รายงานข่าวเผยว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าดังกล่าว เป็นการเลือกตั้งผ่านระบบไปรษณีย์เกือบ 60 ล้านใบ พร้อมกันนี้ บรรดานักวิเคราะห์แสดงทรรศนะว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 2020 (พ.ศ. 2563) อาจจะมีผู้ไปสิทธิเลือกตั้งมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1908 (พ.ศ. 2451) เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิเคราะห์แสดงทรรศนะด้วยว่า ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ อาจล่าช้ากว่าการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มาด้วยเช่นกัน โดยบางรัฐอาจจะนับล่าช้าไม่ต่ำกว่า 2- 3 วัน รวมถึงการมีเรื่องร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลของบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าทางไปรษณีย์ รวมถึงการลงคะแนนเลือกตั้งแบบอื่นๆ เช่น ไดรฟ์ทรู (Drive thru) ที่สามารถใช้สิทธิลงคะแนนได้ภายในยานพาหนะของตน ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ที่รัฐเทกซัส ทางกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอให้ตัดสินว่า การลงคะแนนเลือกตั้งแบบไดรฟ์ทรู ซึ่งมีขึ้นที่นครฮุสตัน ให้เป็นโมฆะ ผลปรากฏว่า ศาลได้ปฏิเสธคำร้องดังกล่าว ส่วนผลการสำรวจคะแนนนิยมล่าสุด ปรากฏว่า อดีตรองประธานาธิบดีไบเดน มีคะแนนนิยมนำหน้าประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ร้อยละ 50.7 ต่อ 44.0