วันที่ 12 ก.ค.60 ที่กองทุนยุติธรรม อาคารชอฟแวร์ปาร์ค ถนนอจ้งวัฒน นางพูลจิตร์ ทับหิรัญ มารดาของนายโสภณ โกสินทร์ สมาชิกแก๊งยันหว่าง ผู้ต้องหาก่อเหตุอาละวาดทำลายข้าวของบนโรงพักสายไหม และทำร้ายร่างกายตำรวจสายตรวจ พร้อมด้วยญาติผู้ต้องหาอีก 2 รายเดินทางมาที่กองทุนยุติธรรม เพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องเงินประกันตัวผู้ต้องหา หลังศาลตั้งวงเงินประกันคนละ 4 แสนบาท นางพูลจิตร์ เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวผู้ต้องหาอีก 2 รายมาขอความช่วยเหลือเรื่องเงินประกันจากกองทุนยุติธรรม เนื่องจากทางครอบครัวไม่สามารถหาเงินจำนวนนี้ได้ จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือ ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ เห็นว่าเป็นการตั้งข้อหาที่เกินความจริง เนื่องจากเมื่อวาน(11 ก.ค.) ตนได้ไปเยี่ยมลูกชายที่เรือนจำ และลูกชายได้พูดถึงเรื่องนี้โดยยืนยันว่าไม่ได้ทำการปล้น หรือขโมยทรัพย์สินแต่อย่างใด ข้อหาอื่นๆ ยอมรับว่าลูกชายตนเองทำผิดจริง ก็อยากให้แจ้งความตามความเป็นจริง ตำรวจแจ้งว่าไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น ตนได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุยืนยันว่าที่เกิดเหตุแต่ละแห่งทั้งปั้มน้ำมัน และสถานีตำรวจนครบาลสายไหมนั้นมีกล้องวงจรปิด ขอให้ตำรวจให้ความเป็นธรรมแก่ลูกชายด้วย ด้านนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องไว้พิจารณา แต่ไม่ได้ผูกมัดว่าผู้ที่มายื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือจะผ่านการอนุมัติทุกราย ซึ่งหลักการสำคัญที่จะได้รับพิจารณาให้ความช่วยเหลือต้องเป็นผู้ยากจน ด้อยโอกาส ไม่สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ด้วยตนเอง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ ยังต้องไม่ใช่ผู้ต้องหาในคดีที่ถูกกำหนดเป็นข้อยกเว้น เช่น คดีบุกรุกทำร้ายทรัพยากรธรรมชาติ โทรมผู้เยาว์ คดีเกี่ยวกับความมั่นคง และต้องไม่ใช่ผู้ก่อคดีที่มีผลกระทบต่อความสงบสุขและศีลธรรมอันดีต่อสังคม อีกทั้งยังต้องพิจารณาถึงพฤติการณ์แห่งคดีด้วย หากก่อคดีที่มีผลกระทบต่อสังคม มีพฤติการณ์ไม่ยอมรับกติกาหรือกฎหมายบ้านเมืองก็อาจไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม