เมื่อวันที่2พฤศจิกายน2563 ซึ่งเป็นวันสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ภายในโรงยิมเนเซี่ยม 4,000 ที่นั่ง สนามกีฬาทุ่งแจ้งเทศบาลนครตรัง อ.เมือง จ.ตรัง มีบรรดากองเชียร์ได้เดินทางมาให้การต้อนรับผู้สมัครของทีมกิจปวงชนกันเป็นจำนวนมากมีการเตรียมพวงมาลัยเพื่อให้กำลังและแสดงความยินดีบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักซึ่งทางคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังมีการจัดเตรียมความพร้อมไว้ทุกๆด้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัคร กองเชียร และผู้สังเกตุการณ์ ด้วยการตั้งโต๊ะคัดกรองวัดไข้และทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล
นางสาวอรพิน อาชีวะสุข ผอ. กกต. กล่าวว่า โดยภาพรวมก็มีผู้สมัครที่สนใจมาสมัครก็จำนวนค่อนข้างมาก และบรรยากาศทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเพราะว่าทางอบจ.มีการจัดระเบียบให้แก่ผู้สมัครและมีผู้ติดตามเข้ามาได้จำนวน 1 คน ในการเข้าไปในสถานที่รับสมัคร ส่วนกองเชียร์จัดให้อยู่อีกโซนหนึ่งตามอัฒจรรย์ ในส่วนของเรื่องประเด็นหากมีการร้องเรียนขึ้นมาทางสำนักงานกกต.เราจะพิจารณาในเบื้องต้น ส่วนคนที่วินิจฉัยชี้ขาดจริงๆเราจะส่งเรื่องไปให้กับทางคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางพิจารณาอีกครั้ง โดยภาพรวมในวันนี้ยังไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ต่อมา นายกิจ หลีกภัย อดีตนายก อบจ.ตรัง พี่ชายนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าทีมกิจปวงชน เดินทางมายังสถานที่รับสมัคร พร้อมด้วยนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ หัวหน้าทีมกิจปวงชน พร้อมผู้สมัครเขตทีมกิจปวงชนทั้ง30เขต มีการพบปะทักทายพูดคุยกับบรรดากองเชียรอย่างเป็นกันเอง และคาดว่าการสมัครตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง วันแรกทีเพียงทีมกิจปวงชนมาสมัครเพียงทีมเดียว จากนั้นเมื่อถึงเวลา08.30น.ผู้สมัครทุกคนยื่นหลักฐานเอกสารเพื่อสมัครเป็นไปตามกฎหมายเลือกตั้ง กกต.
นายกิจ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเห็นหน้าพี่น้องชาวบ้านที่มาคอยเชียร์มาให้กำลังใจ เป็นเรื่องสำคัญ ตนเกษียณเมื่อปี 2538 ลงสมัครเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่งมา 25 ปี และได้ทำสิ่งที่ดีกว่าเหนือกว่าที่อื่นคือการสร้างท่าเรือนาเกลือ และหลังจากนี้เรื่องหาเสียง ก็พาไปพบแต่คงทำไม่ได้ทุกที่ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่เขาคัดกรองมาก่อน และในกรณีที่มีคู่แข่งนั้น ตนเองแปลกใจว่าเดิมทีเขาคุยกับสมชาย ขอว่าให้น้องเขาได้ลงเป็นรองนายก พอยอมแล้วเขาขอสจ.เขตทั้งหมด 5 คน ก็เลยเป็นเรื่อง ซึ่งก็ทราบเรื่องมาประมาณนี้ ในส่วนของฐานเสียงนั้นโดยส่วนใหญ่ชาวบ้านยังให้การสนับสนุนอยู่ และคิดว่าน่าจะมีโอกาสมากกว่าคู่แข่ง ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร และไม่อยากได้ยินสิ่งเหล่านี้ และเราก็ไม่อยากให้อะไรที่เป็นความแตกแยกกันเอง ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีความขัดแย้ง ส่วนนายชวนก็ยังไม่ได้แจ้งอะไรมา ในส่วนเรื่องโครงการสุขภาพคนช่างกินขึ้นอยู่กับเรื่องของการกิน มีทั้งเรื่องเบาหวาน ไขมัน ความดัน ถ้าดูแลเรื่องนี้ได้จะดีมาก ส่วนเรื่องถนนหนทางนั้นผมทำไว้หมดแล้วทุกหมู่บ้านทุกตำบล
นายสาวุฒิ วงค์หนองเตย น้องชาย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และ นายสาธร วงศ์หนองเตย (น้องชาย)ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง สังกัดหัวหน้าทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง ได้มายื่นหนังสือแสดงความยินดีกับ นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ หัวหน้าทีมกิจปวงตนในฐานะ น้องชาย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และ นายสาธร วงศ์หนองเตย (น้องชาย)ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง สังกัดหัวหน้าทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง ได้มายื่นหนังสือแสดงความยินดีกับ นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ หัวหน้าทีมกิจปวงเเป็นตัวแทนครอบครัวมาส่งความปรารถนาดีต่อ "โกเล็ง" และครอบครัว โล่สถาพรพิพิช และมายืนยันว่าการเสนอตัวของพี่สาธร เป็นการเสนอเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีทางเลือก เช่นเดียวกับที่ "โกเล้ง" เสนอตัว เป็นการแข่งขันตามระบอบประชาธิปไตยเพื่อทำงานการเมืองให้จังหวัดตรังไม่ใช่เรื่องส่วนตัวและไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัว ตนก็เชื่อมั่นว่าไม่ว่าผลการเลือกตั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะเป็นเช่นใด "การร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์สังคม พัฒนาจังหวัดตรังให้เจริญ" รุ่งเรืองให้ยิ่งกว่าอดีตระหว่างทั้งสองเป็นสิ่งที่ต้องทำต่อไป
นายบุ่นเล้ง ให้สัมภาษณ์ ภายหลังสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.ตรัง ได้เบอร์ 1 กล่าวว่า ตนมาสมัครวันแรกมีผู้มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมากรู้สึกดีใจ สำหรับคู่แข่งซึ่งเป็นน้องชาย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ไม่หนักใจเป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่นไม่ใช่ระดับชาติ จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ได้มีการหารือกันแล้วแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ในเมื่อความตั้งใจทั้งสองทีมเต็มร้อยจึงปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติคือแข่งขันกันไปตามวิถีทาง ให้ชาวบ้านเป็นผู้ตัดสินใจ ตนยังเชื่อมั่นว่าจะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ยังไงก็ยังเป็นพี่น้องกัน
นายบุ่งเล้ง กล่าวว่า ในส่วนของนายกิจอดีตนายกอบจตรังก็ได้ช่วยแนะนำตนเองเพราะผมอาจจะยังมาอยู่นิดนึงก็ช่วยแนะนำเรื่องต่างๆแต่ก็ปรับตัวไม่ยาก ทำได้แน่นอนและหลังจากนี้ก็จะเดินหน้าหาเสียงเลย ตะลอนหาเสียงไหว้พบปะชาวบ้าน ส่วนเรื่องผลงานหรือประวัตินั้นก็จะสามารถเปิดออกมาให้คุณดูได้ ในเรื่องของนโยบายนั้นก็ต้องมีการหารือและได้เข้าไปก่อนแล้วค่อยไปดูว่าจะทำอะไร ในส่วนของเรื่องผลงานที่จะสานต่อนั้นจะทำในเรื่องของท่องเที่ยว และเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้านว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และทั้งนี้ทั้งนั้นในส่วนของธุรกิจของตนเองนั้นตนเองให้สัญญาเลยว่าจะไม่รับงานของอบจ.เด็ดขาด จะไม่เอางานก่อสร้างของอบจ.เลย ซึ่งธุรกิจส่วนตัวของตัวเองนั้นจะส่งต่อให้ลูกทำแทน
นายกิจ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเห็นหน้าพี่น้องชาวบ้านที่มาคอยเชียร์มาให้กำลังใจ เป็นเรื่องสำคัญ ตนเกษียณเมื่อปี 2538 ลงสมัครเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่งมา 25 ปี และได้ทำสิ่งที่ดีกว่าเหนือกว่าที่อื่นคือการสร้างท่าเรือนาเกลือ และหลังจากนี้เรื่องหาเสียง ก็พาไปพบแต่คงทำไม่ได้ทุกที่ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่เขาคัดกรองมาก่อน และในกรณีที่มีคู่แข่งนั้น ตนเองแปลกใจว่าเดิมทีเขาคุยกับสมชาย ขอว่าให้น้องเขาได้ลงเป็นรองนายก พอยอมแล้วเขาขอสจ.เขตทั้งหมด 5 คน ก็เลยเป็นเรื่อง ซึ่งก็ทราบเรื่องมาประมาณนี้ ในส่วนของฐานเสียงนั้นโดยส่วนใหญ่ชาวบ้านยังให้การสนับสนุนอยู่ และคิดว่าน่าจะมีโอกาสมากกว่าคู่แข่ง ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร และไม่อยากได้ยินสิ่งเหล่านี้ และเราก็ไม่อยากให้อะไรที่เป็นความแตกแยกกันเอง ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีความขัดแย้ง ส่วนนายชวนก็ยังไม่ได้แจ้งอะไรมา ในส่วนเรื่องโครงการสุขภาพคนช่างกินขึ้นอยู่กับเรื่องของการกิน มีทั้งเรื่องเบาหวาน ไขมัน ความดัน ถ้าดูแลเรื่องนี้ได้จะดีมาก ส่วนเรื่องถนนหนทางนั้นผมทำไว้หมดแล้วทุกหมู่บ้านทุกตำบล
นายสาวุฒิ วงค์หนองเตย น้องชาย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และ นายสาธร วงศ์หนองเตย (น้องชาย)ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง สังกัดหัวหน้าทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง ได้มายื่นหนังสือแสดงความยินดีกับ นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ หัวหน้าทีมกิจปวงตนในฐานะ น้องชาย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และ นายสาธร วงศ์หนองเตย (น้องชาย)ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง สังกัดหัวหน้าทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง ได้มายื่นหนังสือแสดงความยินดีกับ นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ หัวหน้าทีมกิจปวงเเป็นตัวแทนครอบครัวมาส่งความปรารถนาดีต่อ "โกเล็ง" และครอบครัว โล่สถาพรพิพิช และมายืนยันว่าการเสนอตัวของพี่สาธร เป็นการเสนอเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีทางเลือก เช่นเดียวกับที่ "โกเล้ง" เสนอตัว เป็นการแข่งขันตามระบอบประชาธิปไตยเพื่อทำงานการเมืองให้จังหวัดตรังไม่ใช่เรื่องส่วนตัวและไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัว ตนก็เชื่อมั่นว่าไม่ว่าผลการเลือกตั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะเป็นเช่นใด "การร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์สังคม พัฒนาจังหวัดตรังให้เจริญ" รุ่งเรืองให้ยิ่งกว่าอดีตระหว่างทั้งสองเป็นสิ่งที่ต้องทำต่อไป
นายบุ่นเล้ง ให้สัมภาษณ์ ภายหลังสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.ตรัง ได้เบอร์ 1 กล่าวว่า ตนมาสมัครวันแรกมีผู้มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมากรู้สึกดีใจ สำหรับคู่แข่งซึ่งเป็นน้องชาย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ไม่หนักใจเป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่นไม่ใช่ระดับชาติ จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ได้มีการหารือกันแล้วแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ในเมื่อความตั้งใจทั้งสองทีมเต็มร้อยจึงปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติคือแข่งขันกันไปตามวิถีทาง ให้ชาวบ้านเป็นผู้ตัดสินใจ ตนยังเชื่อมั่นว่าจะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ยังไงก็ยังเป็นพี่น้องกัน
นายบุ่งเล้ง กล่าวว่า ในส่วนของนายกิจอดีตนายกอบจตรังก็ได้ช่วยแนะนำตนเองเพราะผมอาจจะยังมาอยู่นิดนึงก็ช่วยแนะนำเรื่องต่างๆแต่ก็ปรับตัวไม่ยาก ทำได้แน่นอนและหลังจากนี้ก็จะเดินหน้าหาเสียงเลย ตะลอนหาเสียงไหว้พบปะชาวบ้าน ส่วนเรื่องผลงานหรือประวัตินั้นก็จะสามารถเปิดออกมาให้คุณดูได้ ในเรื่องของนโยบายนั้นก็ต้องมีการหารือและได้เข้าไปก่อนแล้วค่อยไปดูว่าจะทำอะไร ในส่วนของเรื่องผลงานที่จะสานต่อนั้นจะทำในเรื่องของท่องเที่ยว และเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้านว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และทั้งนี้ทั้งนั้นในส่วนของธุรกิจของตนเองนั้นตนเองให้สัญญาเลยว่าจะไม่รับงานของอบจ.เด็ดขาด จะไม่เอางานก่อสร้างของอบจ.เลย ซึ่งธุรกิจส่วนตัวของตัวเองนั้นจะส่งต่อให้ลูกทำแทน