เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่โรงแรมเฮอร์มิเทจ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก หรือ “หมอแหยง” อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีต ส.ส นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และนายทอง วิริยะจารู ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา ร่วมแถลงยืนยันให้การสนับสนุน น.พ สำเริง ลงสมัครนายก อบจ.นครราชสีมา ในนาม “กลุ่มรักษ์โคราช” เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ “สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจก้าวไกล บริหารโปร่งใส ร่วมใจรักษ์โคราช” และกำหนดนโยบายพัฒนาท้องถิ่น 1.การบริหารราชการให้มีประสิทธิภาพ 2.ด้านการสาธารณสุข 3.การศึกษา 4.การสวัสดิการสังคม 5.ด้านเศรษฐกิจ พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม 6.การเกษตร 7.การท่องเที่ยวและบริการ 8.การกีฬาและนันทนาการ 9.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 10โครงสร้างพื้นฐาน 11.ศาสนาและวัฒนธรรม และ 12.ความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน นพ.สำเริง กล่าวว่า ภายหลัง กกต.ได้กำหนดไทม์ไลน์การเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ตนได้ลาออกจากตำแหน่ง ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข เมื่อวันที่ 26 ตค.ที่ผ่านมา สิ่งที่ตั้งใจมุ่งมั่นและใฝ่ฝันมาตลอดตั้งแต่พลาดโอกาสตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา ในสมัยที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี ได้ประกาศจะลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมา อีกครั้ง สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกคือโครงการของ อบจ. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค แต่ละปีได้รับจัดสรรงบประมาณ 4,000 ล้านบาท จะจัดตั้ง “สภาประชาชน” ทั้ง 32 อำเภอ ประชาชนต้องทราบข้อมูลและสามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะกระบวนการมีส่วนร่วมเสนอโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อท้องถิ่น เพื่อสอดคล้องกับนโยบายการเมืองสีขาว” หมายถึง นายกฯ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารต้องลดทอนอำนาจในการจัดสรรงบประมาณ ห้ามแตะเงินทอนอย่างเด็ดขาด หากพบการทุจริตภาคประชาชนสามารถตรวจสอบในรูปแบบสภาท้องถิ่นและมีสิทธิ์ร่วมลงรายชื่อถอดถอนนักการเมืองกังฉินได้ น.พ สำเริง กล่าวอีกว่า ประเด็น ภท.โคราช มีแคนดิเดตว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.นครราชสีมา ทั้ง “เจ้หน่อย เอี่ยมเฮง” หรือ ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล ภริยาของนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และเจ้าของโรงแป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.)โคราช รวมทั้งตนซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส ระบบบัญชีรายชื่อ ภท. อาจทำให้แฟนคลับที่ลงคะแนนให้ ภท. ทั้งจังหวัด เมื่อการเลือกตั้ง ส.ส ครั้งที่ผ่านมา กว่า 3.5 แสนคะแนน จะสับสน “ได้พูดคุยกับนายอนุทิน หน.ภท. ยืนยันไม่ส่งใครลงสมัครแต่อนุญาตให้แข่งขันโดยใช้ชื่อกลุ่มของตนขับเคลื่อน บุคลากรของ ภท. มีความรู้ความสามารถและมุ่งมั่นตั้งใจจริง จึงมีหลายพื้นที่ลงสมัครแบบอิสระ ยืนยันไม่มีความขัดแย้งตามที่สังคมข้อสงสัย “กลุ่มรักษ์โคราช” หาเสียงโดยไม่มีผู้สมัครสมาชิกสภา (ส.อบจ.) นครราชสีมา ตนเคยเป็นนายก อบจ. จะใช้กัลยาณมิตรกับ ส.อบจ.ทั้ง 48 เขต ที่ต่างขั้วการเมือง หากทุกคนรู้รัก สามัคคีและมีคำตอบสุดท้ายคือผลประโยชน์ของประชาชน จะสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน” นพ.สำเริง กล่าว ด้านนายวิฑูรย์ ชาติปฏิมาพงษ์ หรือ “แก้ว ด๊ะดาด” อดีตนายกอบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า หลังแพ้การเลือกตั้ง 2 สมัยติดต่อกัน ชาวโคราชลองผิดโดยผิดหวังการเลือกนายกฯ สมัยแรกเลือกนายฯ เป็นอดีตข้าราชการระดับสูงและสมัยที่สองเป็นอดีตรัฐมนตรี แต่ได้นายกฯ ที่ไม่เข้าใจบริบทท้องถิ่นอย่างแท้จริงจึงไม่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาเมืองโคราชได้ตรงความต้องการ ทั้งๆที่มีงบบริหารจัดการร่วม 4 พันล้านบาท จึงเรียกร้องให้ตนซึ่งเป็นคนท้องถิ่นตัวจริง มีผลงานเด่นชัด โดยริเริ่มจัดงานโคราชด๊ะดาดของดี (ด๊ะดาด ภาษาโคราช หมายถึงมากมาย หลากหลาย) โดยรวมรวมของดีแต่ละท้องถิ่นมาโชว์และวางจำหน่ายที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาเที่ยวชมและจับจ่ายซื้อสินค้าโอทอปแต่ละวันเป็นจำนวนนับแสนคน จึงเป็นที่มาของฉายา “แก้ว ด๊ะดาด” ชาวโคราชคิดถึงและถามหาตลอด นอกจากนี้ได้ต่อยอดคำขวัญโคราช “เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน” มาเป็นวิสัยทัศน์การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นจนมีความเฟื่องฟู อปท.หลายแห่ง ได้เดินทางมาศึกษาดูงานเพื่อนำไปใช้ในแต่ละท้องถิ่น ตนขออาสาใช้ประสบการณ์คนท้องถิ่น ประยุกต์กับความรู้ ความเชี่ยวชาญบริหาร อบจ.นครราชสีมา ให้มีประสิทธิภาพและเป็นโมเดล อปท.ประเทศไทย