เมื่อวันที่ 30 ต.ค. สำนักงานคณะกรรมการปัองกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่าคณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณา กรณีศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืน ตามคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ที่คณะกรรมการ ป.ป.ท.ชี้มูลความผิด         โดยพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่อุทธรณ์ เนื่องจากศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้องของพนักงานอัยการ คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา ด.ต. สมชาย(นามสมมุติ) ผู้ถูกกล่าวหา ตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานป้องกันและปราบปราม ทำหน้าที่สิบเวร มีหน้าที่จัดการ ควบคุมและดูแลรักษา อาวุธปืน   M 16 จำนวน 22 กระบอก ที่ทางที่ว่าการอำเภอได้มาฝากไว้ในห้องควบคุมกับสถานีตำรวจ ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการ ควบคุม ดูแลและรักษาทรัพย์สิน ได้เบียดบังอาวุธปืน M 16 จำนวน 9 กระบอก ราคากระบอกละ 60,000 บาท รวมราคาทรัพย์สินทั้งหมด 540,000 บาท อันเป็นอาวุธปืนของ ที่ว่าการอำเภอ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ผู้เสียหาย ไปเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบและคำสั่งของทางราชการเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย คณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ 76/2560 เมื่อวันทีร 14 พ.ย.2560 โดยมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 และความผิดวินัยร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ ต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 9 ได้ยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาเป็นจำเลย  เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ได้พิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 จำคุก 5 ปี ข้อหาและคำขออื่นให้ยก จำเลยอุทธรณ์ 8 ก.ย.2563 ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว พยานหลักฐานโจทก์ที่ศาลชั้นต้นไต่สวนประกอบรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงและวินิจฉัยชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ท. รับฟังได้ปราศจากความสงสัยแล้วว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง พิพากษายืน