"วิสาร" รับตั้งใจส่งสัญญาณตรง "บิ๊กตู่" เปิดใจฟังเด็ก บอกไม่ได้เตรียมมีดมาแต่ยืมจากแม่บ้านหน้าห้องประชุม ยินดีกราบถ้า "นายกฯ" รับฟัง กราบขออภัย “ชวน” ปลอบขอให้อดทน การเมืองไม่มีอะไรง่าย เมื่อวันที่ 27 ต.ค.63 เมื่อเวลา 19.10 น.ที่รัฐสภา นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เดินทางกลับเข้ามาในรัฐสภาพร้อมให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นต้องขออภัย ตลอดระยะเวลาที่เล่นการเมืองมาไม่มีครั้งไหนที่กดดันสาเหตุที่ตัดสินใจตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนเห็นเด็กๆอยู่ที่ราชประสงค์ จึงคิดว่าควรต้องทำอะไรสักอย่าง และที่ผ่านมาไม่ได้มีเจตนาที่จะเรียกร้องอะไร แต่ดูแล้วนายกรัฐมนตรี ไม่สนใจเดินเข้าเดินออก จึงอยากให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเลือดสุดท้ายของคนไทย เพราะตนผ่านวิกฤติการเมืองมาหลายครั้ง ไม่อยากให้คนไทยเสียเลือดเสียเนื้ออีก "สิ่งที่ผมเรียกร้อง และยอมรับว่าเวลาในสภามันน้อยไปหน่อย น่าจะให้นายกฯประยุทธ์อยู่ด้วย เพราะตั้งใจจะสื่อสารไปถึงท่านโดยตรง สิ่งที่ผมอยากเตือนท่านคืออย่าไปฟังเสียงอวยอย่างเดียว เห็นในสภา มันเหมือนกับเป็นกะลาครอบจริงๆ จึงมานึกถึงตัวเองว่าเราควรต้องเรียกร้องอะไรสักอย่าง เพื่อให้ท่านสนใจ และลดตัวเองลงคือลดตัวเองลงมาหน่อย เพราะขณะนี้มีอำนาจล้นฟ้าเหนือทุกสิ่งอย่าง แต่ถ้าลดลงมาให้เด็กๆส่งตัวแทน หรือมีกลุ่มเพื่อเปิดโอกาสให้ได้มานั่งคุยกันอย่างเปิดอก" นายวิสาร กล่าวว่า ต้องขออภัยท่านประธานชวนอีกครั้ง เราไม่ควรจะทำผิดข้อบังคับ ตั้งแต่เป็นส.ส.มา 9 สมัย ไม่เคยทำอะไรผิด จากกฎข้อบังคับของสภา แต่ครั้งนี้ต้องการสื่อให้นายกฯเห็นตรงๆว่าท่านต้องเห็นความสำคัญ ด้วยตัวของท่านเอง ต้องลงมาแก้ปัญหา จะลาออกหรือไม่ ก็ต้องรับฟังความเห็นจากเด็กๆ หรือจะมีคณะกรรมการกลาง เพื่อรับฟังและแก้ปัญหา ขอให้ใช้โอกาสตรงนี้ ตนตัดสินใจด้วยตัวเองแม้แต่ลูกเมียก็ไม่ทราบ และมีดตนก็ไม่ได้พกเข้าไป แต่ไปยืมมีดปอกผลไม้จากแม่บ้าน เพียงแต่ย้ำว่าขอคมๆหน่อย ปาดครั้งเดียวก็เจ็บอยู่ โชคดีคุณหมอบอกว่าถ้าลึกลงไปอีกหน่อย ถ้าโดนเส้นเลือดใหญ่ก็จะอันตราย ถือว่า 9 เข็มนี้เป็นบทเรียนที่ไม่อยากให้ เด็กๆลูกหลานเอาไปเป็นตัวอย่าง เพราะครั้งนี้ถือเป็นการประท้วง และยอมเจ็บตัวคนเดียว อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ได้เห็นเรื่องราวต่างๆ ที่สภาได้สะท้อนความเห็นออกไปเพื่อให้นายกฯได้มีสติตัดสินใจแก้ปัญหา เมื่อถามถึงกรณีที่น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้ลาออก จากส.ส.นายวิสาร กล่าวว่า ไม่อยากตอบโต้ แต่ขอให้น.ส.ปารีณาไปถามบิดาดูว่าตนเป็นคนอย่างไร และขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชน และบรรยากาศในสภาวันนี้พูดมาตั้งแต่ต้น ว่าต่อให้อภิปรายอย่างไรเหมือนเป็นการแสดงละคร ฝ่ายรัฐบาลและส.ว.ก็มาอวยกันส่วนฝ่ายค้านก็มาติ ชาวบ้านก็มองว่าไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหา แต่ตนไม่มีวิธีใด ที่จะสื่อให้ผู้มีอำนาจทราบ สำหรับข้อเรียกร้องของมวลชนทั้งการเรียกร้องให้นายกฯลาออกและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สามารถคุยได้ ส่วนเรื่องสถาบันเข้าใจว่าหากคุยตรงๆ และมีคนกลางให้จริงๆ ก็มีวิธีการที่จะทำให้สถาบันดีขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าอ้างสถาบันแล้วนำสถาบันมาปกป้องตัวเอง เมื่อถามว่าหากเจอพล.อ.ประยุทธ์จะทำอย่างไร นายวิสาร กล่าวว่า "ยินดีกราบถ้าทำอย่างที่ผมว่า เพราะอย่างน้อยก็อย่าให้เด็กต้องเลือดตกยางออก เพราะเขาไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ขอฝากเป็นครั้งสุดท้ายหากพล.อ.ประยุทธ์ ทำอย่างที่ผมว่าลดตัวลงมาอย่าปิดกั้นใคร คนที่ถูกดำเนินคดีอย่าค้านประกัน เมื่อเขาออกมาก็คัดตัวมาแล้วนำมาพูดคุย จะใช้รูปแบบอะไรก็ได้ ตรงนี้หากมีโอกาสจะลงอย่างสง่างาม และเสือไม่กัดท่านด้วย แต่หากยังฝืนไปไม่รู้เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร จากนั้นนายวิสาร ได้โชว์แผลให้สื่อมวลชนดู พร้อมระบุว่าแผลแรกไม่ลึก แผลที่สองเริ่มลึก แผลที่สามพอเห็นก็ตกใจ เพราะแผลเริ่มกว้าง ทั้งหมดเย็บ9เข็ม หลังจากนี้ต้องฉีดยากันบาดทะยักอีก 2 เดือน หลังจากนี้ก็จะขึ้นไปที่ห้องประชุมสภาเพื่อให้เพื่อนๆสบายใจ ขอโทษขอโพย เพราะเดี๋ยวเขาจะหาว่าเป็นคนไม่เคารพสถานที่ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายวิสาร ยืนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังจากกลับมาจากโรงพยาบาล นายชวน หลีกภัย ประธานสภา ซึ่งกำลังจะเดินทางไปเยี่ยมดูอาการที่โรงพยาบาลได้เดินลงมาเจอนายวิสารพอดี ทำให้นายชวนยืนฟังนายวิสารให้สัมภาษณ์จนจบ จากนั้นนายวิสารได้เข้ามากราบขออภัยนายชวน ในฐานะประธานสภาที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้น โดยนายชวน กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้ห้ามนายวิสารแล้วว่าไม่ให้ทำ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็มีความเป็นห่วง จึงให้ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ต่อ เพื่อที่ตนจะได้ไปเยี่ยมนายวิสารที่โรงพยาบาล แต่เมื่อทราบว่ากลับมาพอดีก็ต้องขอบอกว่า ประชาธิปไตยเราต้องอดทน เมื่อถามว่า แม่บ้านคนที่ให้ยืมมีดจะเดือดร้อนหรือไม่ นายชวน กล่าวติดตลกว่า “ก่อนจะเอาไปปอกผลไม้ อย่างไรก็ขอให้เอาไปล้างก่อนนะ” เมื่อถามต่อว่า ถือเป็นการนำอาวุธเข้าสภาหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า นายวิสารไม่ได้เป็นการนำอาวุธเข้ามาในสภา เมื่อถามว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ส.ส.ควรกระทำในที่ประชุมสภาหรือ นายชวน กล่าวว่า ถึงอย่างไรก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งตนก็ได้ห้ามแล้ว และก็ต้องเข้าใจอารมณ์ และตนขอย้ำว่า การเมืองก็ต้องอดทน ระบอบประชาธิปไตยต้องอดทน ปัญหาทั้งหลายต้องอดทนในการแก้ไข กว่าจะไปสู่ความสำเร็จไม่มีอะไรง่าย