เมื่อวันที่ 22 zต.ค.นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญว่า ทุกคนคาดหวังอยากให้การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 26-27 ต.ค.เพื่อสะท้อนปัญหา และแนวทางแก้ไขกันด้วยเหตุด้วยผล เชื่อว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน รวมถึงวุฒิสมาชิก จะมีข้อมูลในปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี รัฐบาลก็ต้องเปิดใจรับฟังเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา โดยยึดหลักประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง การยื่นญัตติเพื่อรับฟังความคิดเห็นของรัฐบาล ตามมาตรา 165 ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะขณะนี้การชุมนุมของกลุ่มประชาชน เป็นเรื่องที่สำคัญ หากไม่ช่วยกันคิดก็น่าเป็นห่วงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าการอภิปรายจะไม่ได้มีการลงมติ แต่สาระสำคัญคือการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อมารับข้อเท็จจริงจากการอภิปรายในสภา ไปช่วยกันคิดและศึกษาต่อในรายละเอียด โดยให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ฝ่ายวุฒิสมาชิก และที่สำคัญต้องให้ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย รวมไปถึงคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อมาหาทางออกในการแก้ปัญหาให้กับประเทศต่อไป เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาจะเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว "สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดผลสำเร็จ อย่าให้ประชาชนคิดว่าไม่มีความจริงใจ หรือยื้อเวลา พรรคจะเดินหน้าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่เพราะต้องถือว่าการแก้รัฐธรรมนูญก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญในการแก้ปัญหาให้กับประเทศ"นายราเมศ กล่าว