ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk ระบุว่า...
ขอคิดแตกต่างอย่าปะทะก่อรุนแรง บี้“ประยุทธ์”ลาออกบ้านเมืองสงบ “จตุพร”หวั่น“เสื้อเหลือง-สามนิ้ว”เปิดศึกน้ำผึ้งหยดเดียว วอนคิดแตกต่างไม่ใช้ความรุนแรงถึงฆ่าแกงกัน ขอราษฎรยึดมั่นรู้เขารู้เราประเมินสถานการณ์ ยัน“ประยุทธ์ ออกไป”ปัญหาจบหมด ย้ำเปิดวิสามัญควรโหวตร่างแก้ รธน.ก่อน เชื่อสภาเอาแต่เสนอทางแก้วิกฤตก่อเกิดวิกฤตซ้ำ ประเทศเละตุ้มเปะ เมื่อ 21 ต.ค. 2563 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสียสละลาออกจากนายกรัฐมนตรี เพื่อยุติแนวโน้มจะเกิดการปะทะกัน อันมีเหตุมาจากสถานการณ์น้ำผึ้งหยดเดียว นายจตุพร กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำผึ้งหยดเดียวนั้น ไม่ได้มาจากเหตุใหญ่มาทำให้การเมืองทั้งโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นเหตุให้ก่อเกิดอารมณ์ แล้วนำไปสู่สิ่งต้องเป็นไปอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะปรากฎการณ์เสื้อเหลืองจำนวนหมื่นคนชุมนุมกันที่สุไหงโก-ลกวันนี้ หากไม่มีการสับรางความแตกต่างทางความคิดกันแล้ว จะเป็นชนวนเผชิญหน้าปะทะกันได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของชาติในขณะนี้ มาจากคนไม่พอใจ พล.อ.ประยุทธ์ ประกอบกับความผิดพลาดของรัฐบาลที่ประกาศ พรก.ฉุกเฉินร้ายแรงเมื่อตีห้าของวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา และลุกลามมาถึงการสลายชุมนุม 16 ต.ค. จึงทำให้ลุกลามบานปลายไปถึงจุดการชุมนุมที่ทุกคนเป็นแกนนำ "สิ่งสำคัญของประเด็นการเมืองขณะนี้ ถ้าแต่ละฝ่ายมุ่งให้ประเทศชนะแล้วจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ด้วยการเรียกร้องกดดันเพียงข้อเดียวให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก และผมยังเชื่อว่า เมื่อนายกฯลาออกแล้ว จะยุติสถานการณ์ทั้งมวลได้" นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้อีกฝ่ายหนึ่งใส่เสื้อเหลืองชุมนุมมีการขยับตัวอย่างมีนัยสำคัญ มีการขับเคลื่อนแบบป่าล้อมเมือง ดังนั้น อีกฝ่ายหนึ่งต้องไม่คิดอะไรแต่ฝ่ายเดียว เพราะการคิดด้านเดียวฝ่ายเดียวจะก่อให้สถานการณ์ไปถึงจุดกระทบกระทั่งและปะทะกันได้ง่าย เหตุนี้จึงต้องรู้เขารู้เรา รวมถึงประเมินอารมณ์ของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ถึงที่สุด เมื่อมาถึงจุดประเทศมีปัญหาที่ไม่มีใครคาดคิดแล้ว การยุติความขัดแย้งในบ้านเมือง ต้องเป็นการเสียสละของ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้น นายกฯ ต้องแสดงความรับผิดชอบสูงสุด ถ้าลาออก ร่าง รธน.ก็ผ่านการแก้ไขได้สะดวกขึ้น อีกทั้ง ย้ำว่า การเปิดสภาวิสามัญเพื่อประชุมหาทางออกของประเทศนั้น ควรเริ่มต้นด้วยการให้รัฐสภา (ส.ส.-ส.ว.) ลงมติร่างแก้ รธน.เสียก่อน แล้วค่อยไปถกวิกฤตหาทางออกประเทศ ดังนั้นวันที่ 26 ต.ค.นี้ หากแต่ละฝ่าย คือฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ส.ว. มุ่งแต่จะพูดถึงวิกฤตบ้านเมืองในรัฐสภาแล้ว ก็จะสร้างวิกฤตขึ้นมาใหม่ แล้วสภาพบ้านเมืองเละตุ้มเปะ และจะอยู่กันอย่างไร "ถ้าโหวตแก้ รธน.ก่อนเพื่อพิสูจน์ความจริงใจกันแล้ว จะช่วยทำให้บรรยากาศบ้านเมืองให้เย็นลง การพูดคุยของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ส.ว. อาจมีข้อยุติและหาทางออกของบ้านเมืองได้" นายจตุพร กล่าวว่า ตนจัดรายการทางการเมือง เพื่ออธิบายสถานการณ์ให้เป็นแนวทางปกป้องคนหนุ่มสาวไม่ให้ได้รับชะตากรรมอย่างที่ตนและพวกเคยได้รับ แต่ไม่เป็นไรที่ถูกคนกลุ่มหนึ่งจ้องวิพากษ์วิจารณ์ให้เสียหาย อย่างไรก็ตาม ตนก็เคารพในการเคลื่อนไหวและการตัดสินใจตามความเชื่อของคนหนุ่มสาว อีกอย่าง สิ่งน่าห่วงที่สุดคือการจะเกิดความรุนแรงในอนาคตจากเหตุการณ์น้ำผึ้งหยดเดียวดังนั้น จึงย้ำเสมอว่า รัฐต้องไม่ใช้ความรุนแรงกับนักเรียน นักศึกษา โดยขอให้มองพวกเขาอย่างลูกหลาน เพราะต้องอยู่ในแผ่นดินเดียวกัน ที่สำคัญความคิดแตกต่างไม่ใช่ความรุนแรงต้องมาฆ่ากัน "พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเสียสละลาออกจากนายกฯ เพื่อยุติปัญหาทั้งมวล การตัดสินใจนี้มีความสง่างาม เพราะต้องรับผิดชอบต่อปัญหาบ้านเมือง ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เพื่อยุติสถานการณ์อันจะเกิดจากน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง"
ขอบคุณข้อมูล : เพจเฟซบุ๊ก peace talk