วันที่ 19 ต.ค. ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รอง ผวจ.นครราชสีมา และนายแพทย์วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา ร่วมจัดการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการและข้อสั่งการของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ โดยในระเบียบวาระที่ 4 เรื่องพิจารณาวาระสืบเนื่อง เจ้าหน้าที่ สสจ.นครราชสีมา รายงานผลการตรวจประเมินและให้คำแนะนำผู้จัดการแข่งม้าของสนามกีฬาทหารหรือสนามม้าโคราช ระบุมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุม โดยจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ล้างมือครอบคลุม จัดช่องทางเข้าออกทางเดียว กำหนดจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและสแกน QR Cord ผ่านแอพพลิเคชั่น "ไทยชนะ" หรือจดบันทึกประวัติข้อมูลและผู้เข้ามาในพื้นที่ต้องสวมหน้ากากและระหว่างจัดม้าแข่งจำนวน 10 เที่ยว จะมีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร (สห.) คอยควบคุมการเว้นระยะห่างทางสังคมโดยกำหนดจุดและควบคุมจำนวนผู้เข้าชมลดเหลือ 1 ใน 3 ของความจุปกติ 1,500 คน เฉลี่ยไม่เกิน 800 คน เพื่อมิให้เกิดความแออัดเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดรวมทั้งเพิ่มความถี่การทำความสะอาดพื้นที่ เป็นการสร้างความมั่นใจและความปลอดภัย ส่วนกลุ่มเสี่ยงซึ่งเป็นกลุ่มจ๊อกกี้หรือผู้ขี่ม้าแข่ง เจ้าของม้ารวมทั้งผู้ติดตามที่มาจากนอกพื้นที่ต้องตรวจคัดกรองเข้มเป็นพิเศษ ภาพรวมกระบวนเป็นไปตามข้อกำหนดจึงอนุญาตให้ดำเนินการได้ นายพุฒิพัฒน์ พงษ์ไชยกุล ประธานชมรมเจ้าของม้าแข่งจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ผู้เกี่ยวข้องพร้อมใจปฏิบัติตามระเบียบและมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมด้านกีฬาของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การแข่งม้าดำเนินได้ปลอดภัยที่สุด ทุกภาคส่วนได้ประชุมหารือและเตรียมการเป็นเวลากว่า 3 เดือนและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นายพุฒิพัฒน์ กล่าวว่าวงการม้าแข่งถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัดโดยมีเชื้อโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าระบาดหนัก ส่งผลให้ม้าตายกว่า 500 ตัว และโรคโควิด-19 สนามม้าแข่งต้องหยุดนานร่วม 8 เดือน กิจกรรมเกี่ยวกับม้าแข่งต้องหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง ส่งกระทบต่อผู้เกี่ยวข้องจำนวนหลายหมื่นคนได้รับความเดือดร้อนโดยสูญเสียรายได้และแบกรับภาระค่าใช้จ่ายการเลี้ยงดูม้า ปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลาย ชาวอาชาโคราชขอขอบคุณนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา และทุกภาคส่วนได้อนุญาตให้จัดม้าแข่งจะทำให้ผู้เกี่ยวข้องอาชีพม้าแข่งทั่วประเทศ มีรายได้สามารถดำรงชีพเลี้ยงดูครอบครัวได้ปกติสุข คาดประมาณเดือนพฤศจิกายน มีโอกาสสูงที่จะจัดการแข่งม้าเป็นสนามแรกของประเทศ