เน้นให้ใช้สตินำอารมณ์ สำรวจตนสม่ำเสมอ เปิดใจรับฟังคนรอบข้าง ลดความเสี่ยงเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ข่าวการเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างมาก โดยปกติแล้วการติดตามข่าวสารและสถานการณ์ต่าง ๆ ของประเทศเป็นเรื่องที่ดี แต่การติดตามข่าวสารที่มากไป โดยเฉพาะข่าวสารที่มีการกระตุ้นให้เกิดอารมณ์แบบต่าง ๆ เช่น โกรธ เศร้า กังวล เมื่อต้องประสบกับอารมณ์เหล่านี้ซ้ำ ๆ อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาทางกายมากขึ้นได้ เช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หายใจไม่อิ่ม ปวดท้อง ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ นอนไม่หลับ และอาการทางจิตใจ ได้แก่ วิตกกังวลครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา หงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว ก้าวร้าว สมาธิไม่ดี ฟุ้งซ่านหรือหมกมุ่นมากเกินไป เบื่อหน่าย หรือท้อแท้ ได้เช่นเดียวกัน อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การรับฟังข่าวสารทางการเมืองที่มีความร้อนแรงในขณะนี้นั้น สามารถใช้หลัก 5 วิธีที่ควรปฏิบัติ ได้แก่ 1.ให้ความสำคัญกับสติของตนเองทุกครั้งเมื่อต้องเสพข่าว สังเกตอารมณ์ของตนเองและผลกระทบจากอารมณ์นั้น และติดตามจิตใจของตนเองสม่ำเสมอในระยะยาว 2.จัดสรรเวลาติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างพอดี ไม่ควรติดตามต่อเนื่องนานไป 3.พยายามทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นปกติ หันเหความสนใจจากข่าวสารไปเรื่องอื่นบ้าง ละเว้นการรับรู้ข่าวสารที่ส่งผลต่อความเครียดชั่วคราว ไม่ละเลยหน้าที่ของตนเอง ทั้งการทำงาน การเรียน และการใช้เวลาที่มีคุณภาพกับครอบครัว 4.เคารพความเชื่อและความคิดเห็นแบบประชาธิปไตยที่แตกต่างหลากหลายได้ โดยไม่ดูข่าวหรือรับข้อมูลข่าวสารเพียงด้านเดียวหรือสื่อเดียว ฝึกเปิดใจกว้างและทดลองรับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ตรงกับความเชื่อเดิม ควรรับฟังและเปิดใจรับฟังความคิดและความเชื่อของคนรอบข้างด้วย 5.พักผ่อนและการผ่อนคลายความเครียด เช่น นอน ออกกำลังกาย ฝึกโยคะ ทำสมาธิ ฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ฝึกหายใจคลายเครียด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากอาการยังไม่ดีขึ้น เช่น ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มีความเครียดรุนแรง สูญเสียความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง สามารถขอรับบริการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อหาทางแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป