วันที่ 19 ต.ค.63 ที่กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. ได้กล่าวถึงข่าวปลอมหรือเฟคนิวส์ ที่มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารและสร้างความสับสนเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยกอร.ฉ. ได้ตรวจพบ เช่น มีเพจเฟซบุ๊กบางเพจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้หมดแล้ว ได้มีการไลฟ์สดเหตุการณ์ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการชุมนุมบริเวณแยกปทุมวันเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 โดยเพจดังกล่าวได้มีการไลฟ์สดซ้ำในช่วงค่ำของวันที่ 17 ตุลาคม 2563 เวลา 20.18 น. และ วันที่ 18 ตุลาคม 2563 เวลา 19.29 น. ในช่วงเวลาที่มีการชุมนุม ในลักษณะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมมีการเผชิญหน้าและมีการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ชุมนุมในช่วงค่ำของวันที่ 17 และ 18 ตุลาคม ทั้งที่ข้อเท็จจริงเวลาที่เพจดังกล่าวได้ทำการไลฟ์สดไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะที่เพจได้ไลฟ์สดแต่อย่างใด แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่นำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิมเตอร์ที่มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความสงบเรียบร้อย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ทั้งนี้เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์มาตรา 14 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท นอกจากนั้นยังเป็นการฝ่าฝืนประกาศผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงฉบับที่ 4 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท ทางกอร.ฉ.จะพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวต่อไป และขอฝากประชาชนในการรับข้อมูลข่าวสารอยากให้รับข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์ของทางราชการหรือสำนักข่าวหลักที่มีการตรวจสอบกลั่นกรองข้อมูลอย่างถูกต้องถี่ถ้วนแล้ว