“บิ๊กตู่” ลั่นไม่ลาออก ถาม”ทำผิดอะไร" แจง จำเป็นต้องประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง หลังเหตุการณ์ไม่ปกติ บอกไม่ได้ขู่ แฉไอ้โม่งหนุนม็อบ รับเคอร์ฟิวอยู่ในแผน แต่ยังไม่ประกาศใช้กฎอัยการศึก ประสานเสียง"บิ๊กป้อม"ไม่ปล่อยแกนนำเพราะทำผืดกม.ไล่ไปสวดมนต์แผ่เมตตา วอนอย่าท้าทายมัจจุราช เพราะตายได้ทุกคน ขอร้องผู้ชุมนุมไม่อยากเห็นใครถูกดำเนินคดี เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นำคณะรัฐมนตรี (ครม.)ชุดเล็ก แถลงผลการประชุมครม.นัดพิเศษว่า วันนี้ชี้แจงเรื่องการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ ซึ่งทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศของเราในเวลานี้ ซึ่งรัฐบาลมีความจำเป็นที่ต้องประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เนื่องจากสถานการณ์มีความรุนแรงเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่ามีหลายอย่างเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วันนี้ได้มีการประชุมครม.เพื่อให้ความเห็นชอบในการประกาศใช้ตามกฎหมาย โดยประกาศใช้เมื่อวันที่ 15 ต.ค. เวลา 04.00 น. จากนั้นต้องนำเข้าครม.เพื่อพิจารณาภายใน 3 วัน อันนี้เป็นการทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามกระบวนการของกฎหมาย นายกฯ กล่าวว่า สาระสำคัญในพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีหลายประการ คือห้ามการให้อำนาจเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องสงสัยที่ผ่านมาเราใช้กฎหมายปกติ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งวันนี้ใช้กฎหมายนี้ ขอกราบเรียนทุกท่านให้เข้าใจว่าสาระสำคัญตั้งแต่การห้ามไม่ให้มีการชุมนุม การเข้าตรวจค้น จับกุมผู้ต้องสงสัยที่ทำผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งหวังเพื่อให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ การแพร่ระบาดต่างๆของโควิด-19 วันนี้และเมื่อวานได้มีการพบปะหารือพูดคุยกับฝ่ายเศรษฐกิจว่าจะทำอย่างไร ทั้งเศรษฐกิจในประเทศ ต่างประเทศ ทวิภาคี พหุภาคี เรากำลังเดินหน้าทุกอย่าวและการใช้งบประมาณต่างๆ งบฟื้นฟู งบปกติ งบปี 63 และปี64 ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 จากแนวชายแดน เราทำทั้งหมด ซึ่งสถานการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย “แต่เมื่อมีสถานการณ์ที่ไม่ปกติเกิดขึ้น ก็มีความจำเป็นต้องประกาศใช้ และผมมุ่งหวังว่าจะใช้ให้สั้นที่สุด วันนี้ประกาศใช้เพียง 1 เดือนหรือ 30 วัน หรือน้อยกว่านั้น ถ้าสถานการณ์คลี่คลายได้เร็ว อันนี้เป็นหลักการสำคัญ ไม่ได้มุ่งหวังที่จะไปทำร้ายใคร ท่านต้องดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีใครถูกทำร้ายบ้าง คือเจ้าหน้าที่เป็นผู้ถูกกระทำ ทุกอย่างแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ไม่ใช่ปกติแล้ว และเหตุการณ์สำคัญอื่นได้เกิดขึ้น ผมคงไม่ต้องกล่าว ณ ที่นี้ ทุกคนทราบดีอยู่ในสายตาสื่อทุกคน ฉะนั้นขอให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้หรือไม่ สร้างเสถียรภาพได้หรือไม่ และที่สำคัญที่สุดเป็นห่วงบรรดาผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด ใครบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ก็รู้กันอยู่”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนให้แนวทางปฏิบัติกับผู้ที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะรองนายกฯ และหัวหน้าปฏิบัติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ขอให้ทุกคนระมัดระวังการบังคับการใช้กฎหมาย เพราะพ.ร.บ.การชุมนุมฯ ไม่ได้ใช้แล้ว ตรงนั้น 50 เมตรต้องขออนุญาตก่อน กฎหมายปกติไม่ได้ใช้ แต่กฎหมายวันนี้มีอำนาจทุกอย่างห้ามเข้า ห้ามออก ตรวจค้น รื้อค้น ขอเตือนอย่าทำผิดกฎหมาย ถ้ามีกฎหมายทำผิดมันก็ต้องใช้กฎหมาย ซึ่งทุกประเทศเขาอยู่กันด้วยกฎหมาย ถ้าท่านบอกว่ารัฐบาลใช้และละเมิดสิทธิมนุษยชน แล้วใครละเมิดสิทธิมนุษยชนคนอื่นเขาบ้างหรือไม่ ก็จำเป็นต้องรักษาคนส่วนใหญ่ไว้ให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเศรษฐกิจในเวลานี้ ซึ่งนักธุรกิจร้องเรียนมาที่ตนจำนวนมากจากสถานการณ์เมื่อวันที่ 15 ต.ค. “ผมในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ในฐานะนายกรัฐมนตรีปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องนึกถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศเขาบ้าง เวลาที่เราต้องทำอย่างอื่น ดูแลช่วยเหลือประชาชน ดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาชีวิตทรัพย์สินประชาชน ต้องเอากำลังทั้งหมดมาดูแลเรื่องที่กระทำผิดกฎหมาย ทำทุกอย่างเสียไปหมด การทำงานก็ทำด้วยความยากลำบาก ขอฝากพวกเราไว้ด้วย ฝากสื่อทุกคน วันหน้าใครที่จะไปทำข่าวในพื้นที่ชุมนุม กรุณาติดปลอกแขนด้วยว่ามาจากสื่อใด ถ้าไม่ติดปลอกแขนห้ามเข้าพื้นที่ เพื่อให้ทุกคนช่วยกันให้เกิดความสงบ อย่าให้คนเอารูปต่างๆ ทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน ทั้งที่เจ้าหน้าที่ทำอย่างเต็มที่ ไม่มีการใช้กำลัง มีแต่ถูกใช้กำลัง ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เราจะอยู่กันแบบนี้หรือ ผมถามว่าจะอยู่กันแบบนี้หรือ ถ้าไม่ช่วยกัน ให้รัฐบาลทำอย่างเดียว ผมว่าแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ ตราบใดที่คนไทยยังไม่มีน้ำใจเป็นหนึ่งเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว นายกฯ กล่าวว่า เรื่องทางการเมือง เรื่องสภาก็เดินตามขั้นตอนตามกฎระเบียบ จะเปิดสภาหรือไม่เปิดสภาอีกไม่กี่วันก็เปิดอยู่แล้ว ก็ไปว่ากันตรงโน้น เรื่องรัฐธรรมนูญรัฐบาลสนับสนุนให้มีการดำเนินการอยู่ก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย ฉะนั้นขอเตือนทุกคนที่มักจะกระทำผิดกฎหมายในวันนี้ แม้กระทั่งกฎหมายเรื่องการใช้สื่อโซเชียลโฆษณาบิดเบือนต่างๆ นักข่าวหลายท่านก็ใช้อยู่ ขอให้ระมัดระวังด้วย โอเคมีอะไรหรือไม่ “วันนี้พรรคร่วมต่างๆโดยเฉพาะรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ในพรรคร่วมรัฐบาลมาเกือบครบทุกท่าน เว้นเฉพาะติดราชการสำคัญ ก็มีมติเห็นชอบให้บังคับใช้กฎหมายนี้ ขอฝากคนไทยทุกคนในประเทศช่วยสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหานี้ด้วย ในส่วนของนิสิต นักศึกษา ขอฝากผู้ปกครองช่วยดูแลให้ดีที่สุด ผมไม่อยากให้มีผลกระทบใดๆ มันอันตราย เพราะเราไม่รู้ว่าวัตถุประสงค์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหล่านี้ต้องการอะไร ก็พอจะทราบอยู่แล้วแต่เขาไม่ได้เปิดเผยตัวออกมาก็ระมัดระวังด้วยแล้วกัน อย่าให้อยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัย โอเคนะครับ อย่าหาว่าผมขู่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว เมื่อถามว่า จำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิวแล้วหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า มีกำหนดอยู่ในนั้น แต่ยังไม่ประกาศใช้ อยากให้ประกาศหรือไม่ เมื่อถามต่อว่า ขั้นตอนหรือเงื่อนไขอะไรที่นำไปสู่การประกาศเคอร์ฟิว นายกฯ กล่าวตอบคำถามแบบยอกย้อนว่า "สงบมั้งถึงต้องใช้ ถ้าลุกลามบานปลายก็ต้องทำ แต่ยังไม่ถึงขั้นประกาศใช้กฎอัยการศึก" เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองไปถึงการทำรัฐประหารซ้ำหรือไม่ นายกฯ กล่าวอย่างฉุนเฉียวว่า "พูดกันซ้ำซากอยู่อย่างนี้ ปฏิวัติ รัฐประหาร พูดอยู่นั้น ไม่รู้ว่าสื่อคิดกันไปเองหรือเปล่า ผมไม่รู้ ผมยังไม่คิดถึงตรงนั้นใครจะทำ ไปหามาซิ" ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "โอ๊ยยังไปอีกไกล" นายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศชุมนุมต่อเนื่องว่า ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องว่ากันไป ส่วนข้อเรียกร้องอื่นๆ ก็หารือกันทั้งในสภาและคณะกรรมาธิการ เพราะมีกลไกอยู่แล้ว ถ้าจะบังคับให้ทำโน้นทำนี้มันถูกต้องหรือไม่ เป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า เมื่อถามว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำมวลชนออกมาเป็นจำนวนมากและกดดันเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานจนเกิดภาพในการปะทะกันจะแก้ปัญหาอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่าแล้วใครเป็นคนทำ เมื่อถามว่าจะขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดด้วยหรือไม่ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศดาวกระจายไปพื้นที่ต่างๆพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อชี้นำไปเรื่อยๆ แล้วก็มาตั้งคำถามกับตนวันนี้เอาทีละขั้นตอน ผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมวันนี้รองนายกฯ จากพรรคร่วมรัฐบาล ได้เสนอแนะทางออกอย่างไรบ้างนายกฯ กล่าวว่า ทุกคนทุกพรรคเห็นชอบการใช้กฎหมาย รวมทั้งการเดินหน้าการแก้ปัญหาโควิด-19 และเสริมการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งต้องช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนให้เห็นว่า เรากำลังทำอะไรกันอยู่ เพราะคนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจและโควิด-19 ถ้าเขารอโอกาส รอการสนับสนุนจากรัฐบาล แล้วทำไม่ได้ คนส่วนใหญ่ก็จะเดือดร้อน สื่อเองต้องช่วยกันพูดตรงนี้ ในส่วนของต่างประเทศเราพยายามทำความเข้าใจอยู่ ซึ่งนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมแล้วไม่มีผลกระทบอะไรเพราะที่ผ่านมาได้ชี้แจงตลอดถึงเหตุผลและความจำเป็นต่างๆ ซึ่งวันนี้ต้องชี้แจงอีก โดยประกอบกับข้อเท็จจริง ข้อมูล ภาพ และการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างไร มีการใช้มาตรการอย่างละมุ่นละม่อม และใช้มาตรการอย่างเบาที่สุดแล้ว ลองเปรียบเทียบกับต่างประเทศดูทุกคนก็รู้ว่าเขาใช้วิธีอะไรแก้ปัญหา แต่เราไม่เคยใช้ "แต่ถ้าทำผิดกฎหมาย แล้วเราปล่อยให้ละเมิดกฎหมายต่อไป บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้ และไม่ใช่เพื่อผม แต่ทั้งหมดเพื่อประเทศชาติและประชาชน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม จังหวะนี้นายกฯและพล.อ.ประวิตร ที่ยืนอยู่ติดกันได้กล่าวขึ้นพร้อมกันว่า "มันผิดกฎหมาย" เมื่อถามว่า การนัดชุมนุมเย็นวันที่ 16 ต.ค.รัฐบาลจะบริหารจัดการอย่างไร นายกฯ ตอบว่า ก็คอยดูสิ ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายไม่อยากให้ภาพเหตุการณ์เกิดซ้ำขึ้นอีก ยืนยันได้หรือไม่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีกพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ก็ต้องไปทำให้คนที่พยายามจะฝ่าฝืนทำในส่ิงที่ไม่ควรทำหรือสมควรทำ ทุกฝ่ายรวมทั้งสื่อต้องช่วยกัน ไม่ใช่แต่เสนอข่าวออกมาแล้วเกิดผลกระทบต่อกัน เจ้าหน้าที่โดนทำร้าย โดนกระทำไม่เคยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กันเลย แล้วใครจะมีกำลังใจทำงานอยากได้แต่ไม่ทำอะไรก็ลำบาก เมื่อถามถึง จะมีการเปิดเวทีรับฟังความเห็นและการเจรจาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ที่ผ่านมาก็ได้ให้คนไปเปิดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นและเก็บข้อมูล แต่ท้ายที่สุดก็ไปรวมอยู่ที่เดียวกัน มีเหตุผลเงื่อนไขต้องอย่างนั้นอย่างนี้ ส่วนที่นักวิชาการระบุว่าอยากให้รัฐบาลจริงใจในการรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มนักศึกษา อยากถามว่าที่ผ่านมาไม่จริงใจตรงไหน แล้วทำไมสื่อไม่ถามกลับไปบ้างว่า เขามีความจริงใจกับผมหรือเปล่า ผมถือว่าผมเป็นนายกฯที่รับฟังมากที่สุด" ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ยืนยันได้หรือไม่จะไม่ลาออกจากนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เรื่องอะไร ยืนยันว่าไม่ออก" เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงตรงนี้ ทำให้รัฐมนตรีที่ยื่นอยู่ด้วยกันพากันหัวเราะ เมื่อถามว่า ถึงวันนี้มีการพูดถึงการใช้รูปแบบการชุมนุมแบบฮ่องกงโมเดล กังวลหรือไม่ว่าจะไปถึงขั้นนั้น นายกฯกล่าวว่า โธ่ สื่อก็ถามกันไป แล้ววันนี้ฮ่องกงโมเดลเป็นอย่างไรบ้าง ฮ่องกงก็เสียหาย ธุรกิจก็พัง ทุกอย่างพังพินาศ แล้วคนชุมนุมเป็นอย่างไรบ้าง แต่อย่าลืมว่าเขาเป็นสังคมนิยมประชาธิปไตย เราเป็นประชาธิปไตยทำได้แค่ไหน เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด อยู่ด้วยความร่วมมือของทุกคน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้ย้อนถามสื่อมวลชนว่า " คนไทยกันหรือเปล่า นั่งกันอยู่ที่นี่เป็นคนไทยหรือไม่ ประเทศไทยเป็นของพวกท่านหรือไม่ หรือของผมคนเดียว มันไม่ใช่หรอกมั้ง " เมื่อถามว่า ยังมั่นใจจะทำให้ประเทศสงบตามที่ประกาศไว้หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้อนถามว่า แล้วไม่สงบเพราะอะไร เพราะใคร ส่ิงที่รัฐบาลนี้ทำมาตลอดหลายปี ทำอะไรไปแล้วบ้าง สื่อประชาชนเสนอข่าวให้ประชาชนทราบบ้างหรือไม่ ถ้าพวกท่านเสนอข่าวแต่การเมืองอย่างเดียว บ้านเมืองก็วุ่นวายอยู่แบบนี้ ก็เสนอของพวกท่านไป แต่ถ้าทำให้สถานการณ์สงบ ตนก็ไม่ห้ามอยู่แล้ว เขียนอย่างไรก็ตามขอให้มันสงบ "ผมขอถามว่าวันนี้ผมทำอะไรเหรอ ผมผิดอะไรหรือตอนนี้ ขอถามหน่อยซิ" ผู้สื่อข่าวระบุว่าอาจเป็นเพราะนายกฯ อยู่ในตำแหน่งนานไปหรือไม่ และมีแววว่าจะอยู่ต่ออีกนาน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "โธ่ เคยฟังพระสวดไหม เคยเข้าวัดกันหรือไม่ สงสัยไม่ค่อยได้เข้าวัดกันถึงเป็นแบบนี้ นายกฯ กล่าวว่า ไปฟังพระสวดอภิธรรมมี 4 จบ วันนี้สวด ทั้งแผ่เมตตาและให้อโหสิกรรมทุกคน ไม่ให้ร้ายกับใคร เพราะส่ิงที่ให้ร้ายกับคนจะกลับมาที่ตัวเราเอง อย่าประมาท เพราะทุกคนมีทั้งตายวันนี้และตายพรุ่งนี้ ตามบทสวด อย่าประมาทชีวิต พร้อมจะตายได้ทุกโอกาส ทั้งด้วยโรคภัยไข้เจ็บหรืออะไรก็ตาม เราไปกำหนดไม่ได้ อย่าท้าทายกับท่านพญามัจจุราชที่มีเสนามาก การตายจะเป็นวันนี้ หรืออยู่วันไหน มีโอกาสตายทุกคนโรคภัยไข้เจ็บเครียดสมองแตก และอีกบทคืออย่าประมาทเสมาอำมาตย์ที่มีอำนาจน้อย อีกอย่างคนเรามีโอกาสตายได้ทุกวัน ไปฟังคำพระกันบ้าง นับถือศาสนาพุทธกันบ้างหรือเปล่า สวดมนต์กันได้กี่บท มาท่องแข่งกับฉันไหม ไม่เอาชักเลอะเทอะแล้ว เมื่อถามว่า ถ้าวันนี้พูดได้ อยากพูดอะไรกับกลุ่มผู้ชุมนุม นายกฯกล่าว่า "อยากขอร้องไม่อยากให้ใครถูกดำเนินคดีทางกฎหมายไม่อยากให้ทำ ขอให้รักแผ่นดินเกิดของท่านให้มากขึ้นเท่านั้นเอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวของนายกฯ ครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่ามีการเชิญรองนายกฯและรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมจากพรรคร่วมรัฐบาลมายืนแถลงข่าวร่วมกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงครั้งนี้พรรคร่วมรัฐบาลเห็นพ้องต้องกัน