นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทยภักดี โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า ปัญหาหลักประเทศคือนักการเมืองโกง แต่ม็อบไม่เคยพูดถึง พูดแต่เรื่องล้มล้างสถาบัน ถ้าเขาทำสำเร็จ นักการเมืองโกงยึดครองประเทศ จะเป็นอย่างไร? โดยมีข้อความตอนหนึ่ง ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา คือ 14 และ 15 ตุลา ค่อนข้างจะชัดเจน ที่ม็อบจะอ้างข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่สุดท้ายมีความชัดเจน ว่า ต้องการที่จะล้มล้างการปกครอง เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นระบอบสาธารณรัฐ เพราะค่ำคืนที่ผ่านมา คือ วันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ผ่านโซเชียลมีเดีย ใช้คำว่า ไทยรีพับลิค ว่า เขาต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ ซึ่งทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เวลานี้ประเทศไทย ไม่ใช่ระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นอำนาจของ ส.ส. ที่ประชาชนได้เลือกตั้งเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน องค์สมเด็จพระมหากษัตริย์ สถาบันกษัตริย์ ท่านเป็นเพียงองค์พระประมุข ที่เป็นศูนย์ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของพี่น้องประชาชน ผมก็เลยอยากกราบเรียนพี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน ว่า ม็อบวิเคราะห์ปัญหาของประเทศผิด ปัญหาของประเทศ มันอยู่ที่นักการเมืองโกง เราต้องแก้ที่ต้นตอของปัญหาประเทศ คือ นักการเมืองโกง แต่วันนี้กลายเป็นว่า ม็อบต้องการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองไปสู่สาธารณรัฐ ในขณะที่นักการเมืองโกงยังมีอยู่ เพราะฉะนั้นให้พี่น้องนึกภาพ ว่า วันที่นักการเมืองโกงมามีอำนาจคุมประเทศไทยทั้งหมด ประเทศไทยจะเกิดอะไรขึ้น ผมเลยอยากเรียนให้พี่น้องประชาชน ทราบว่า ขณะนี้มันเกิดอะไรขึ้นในสังคม และประเด็นสำคัญที่สุด คือ เราต้องเข้าใจว่า ภายใต้ระบอบการปกครองของแต่ละประเทศ เป้าหมาย คือให้ประชาชนอยู่ดี กินดี ลูกหลานมีการศึกษาที่ดี และประเทศชาติมีการพัฒนา รายละเอียดของแต่ประเทศไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แต่ขอให้แต่ละประเทศสามารถสร้างความเป็นอยู่ดี กินดีให้กับประชาชนลูกหลานมีการศึกษาที่ดี และประเทศชาติมีการพัฒนา และผมเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้ในสังคมไทย เรามีวิถี เรามีอัตลักษณ์ เรามีวัฒนธรรม เรามีประเพณี ดังนั้นระบอบการปกครองที่ เรียกว่า ประชาธิปไตยที่มีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มันจึงสอดคล้องกับสังคมไทยมากที่สุด และก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว่า เราสามารถสร้างความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชนได้ เพียงแต่ว่า เป้าหมาย คือ ต้องแก้ปัญหานักการเมืองโกง
ขอขอบคุณข้อมูล และรูปภาพจากเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom