ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(15 ต.ค.)ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ1,253.61 จุด ลดลง 10.38 จุด (-0.82%) มูลค่าการซื้อขายราว 27,373.11 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,258.09 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,249.79 จุด นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับลงไปราว 0.6% ตามตลาดสหรัฐฯ ตอบรับแรงกดดันจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่อาจจะล่าช้าออกไป หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ยอมรับว่าการบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.ถือเป็นเรื่องยาก ขณะที่บ้านเรามีปัจจัยการเมืองที่ยังคลุมเครือกดดัน เท่าที่ดูการชุมนุมทางการเมืองรอบนี้แม้ว่าจะสู้การชุมนุมครั้งก่อนๆไม่ได้ แต่อาจมีความยืดเยื้อ ซึ่งตลาดฯไม่ชอบอะไรที่ไม่ชัดเจน ทำให้นักลงทุนเลือกลดความเสี่ยงลงบ้าง ส่วนการ Action ของรัฐบาลรอบนี้ถือว่ารวดเร็วมากในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ดังนั้นเมื่อตลาดต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทั้งในและนอกประเทศ ทำให้นักลงทุนขายทำกำไรออกมาบ้าง อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้แรงซื้อประคองไว้จากหุ้นในกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น จากความต้องการน้ำมันของจีนที่มีการนำเข้ามากขึ้น อย่างไรก็ดี คืนนี้ยังต้องติดตามสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯว่าจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมให้ติดตามการประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/63 ของกลุ่มแบงก์ที่จะเริ่มทยอยออกมาช่วงปลายสัปดาหี์นี้ แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนลบต่อไป โดยจะต้องติดตามการชุมนุมทางการเมืองในช่วงบ่ายนี้ที่แยกราชประสงค์จะเป็นอย่างไร กระแสจะแรงหรือไม่ พร้อมให้แนวรับ 1,250 จุด ส่วนแนวต้าน 1,275 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่ KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,361.37 ล้านบาท ปิดที่ 73.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท,CPFมูลค่าการซื้อขาย 1,075.38 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท,PTT มูลค่าการซื้อขาย 982.73 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง,HANA มูลค่าการซื้อขาย862.82 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท ลดลง 2.00 บาท,PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 801.06 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท