เมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า กทม.ห่วงใยประชาชนจำนวนมากที่จะมาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากสภาพอากาศวันนี้อาจมีฝนตกเช่นเดียวกับเมื่อวันที่ผ่านมา จึงขอให้ตรียมอุปกรณ์ป้องกันฝน อาทิ หมวก ร่ม หรือเสื้อกันฝน มาด้วย ทั้งนี้ ด้วยความห่วงใยต่อสุขภาพของประชาชนดังกล่าว กรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมหน่วยแพทย์ปฐมพยาบาล ตามเส้นทางเสด็จฯ อาทิ บริเวณ ถ.ดินสอ สี่แยกคอกวัว พระแม่ธรณีบีบมวยผม  ศาลหลักเมือง บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นต้น หากประชาชนที่มาร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จฯ รู้สึกเจ็บป่วย สามารถขอรับบริการได้ นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมรถสุขาเคลื่อนที่ไว้บริการประชาชนด้วย อาทิ บริเวณกองทัพภาคที่ 1  ข้างกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนสตรีวิทยา ลานพลับพลาเจษฎามหาบดินทร์ ข้างโรงแรม รัตนโกสินทร์ พระแม่ธรณีบีบมวยผม หลังศาลฎีกา ด้านในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น อย่างไรก็ดี เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ขอให้ประชาชนดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลด้วย โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัยไม่ว่าจะเป็นแบบหน้ากากทางการแพทย์หรือหน้ากากผ้า  ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันนี้ (14 ต.ค. 63) กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์สภาพอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ ประกอบกับพายุระดับ 3 (พายุโซนร้อน) “นังกา” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านอ่าวตังเกี๋ยเข้าสู่บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในวันนี้ (14 ตุลาคม 2563) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อภาคะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น ในส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  เมฆมากกับมีฝนร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.