หนุ่มลูกจ้างไปรษณีย์ไทยเฮี้ยน กลับบ้านร้องเรียกแม่ก่อนรุ่งฟ้าสางหลังวันเกิดเหตุที่บ้านเมืองปากน้ำ ทั้งยังเปิดปิดประตูบ้านให้คนในครอบครัวได้ยินตามเวลาปกติที่เคยออกจากบ้านไปทำงาน ก่อนญาติจะรีบตามมาเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านไปในวันนี้ บอกยังทำใจไม่ได้พร้อมพนมมือเรียกชื่อหาลูกระหว่างพิธีตลอดเวลา โดยบอกชวนลูกให้กลับบ้านกัน วันที่ 13 ต.ค.63 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ม.7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นางสุดท้าย ตรูสมูล อายุ 54 ปี มาดาของ นายปัญจพล ตรูสมูล อายุ 27 ปี บุรุษไปรษณีย์ไทย ซึ่งมารับจ๊อบทำงานพิเศษในวันหยุดเป็นดีเจเปิดเพลงขายเสียงสร้างความสุขให้แก่ผู้คนบนรถของคณะกองผ้าป่า ที่จะนำไปทำบุญสมทบร่วมกับกองกฐินวัดบางปลานัก ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ก่อนมาประสบอุบัติเหตุถูกขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าพุ่งชนจนเสียชีวิต พร้อมกับผู้ร่วมเดินทางมาในรถบัสคันเดียวกัน อีกจำนวนหลายคน จนกลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรมใหญ่ ที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากถึง 19 คน พร้อมด้วยนายทวีป ตรูสมูล อายุ 58 ปี ผู้เป็นบิดา และ น.ส.ปิยะดา เฉียวทอง อายุ 27 ปี ภรรยา รวมถึงผู้เป็นพี่สาวและญาติ ได้นิมนต์พระสงฆ์ชื่อดัง “หลวงปู่อี๊ด” หรือ พระบุญส่ง จันทิโม อายุ 63 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเตาถ่านจาก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณของ นายปัญจพล ยังในที่เกิดเหตุ โดยนางสุดท้าย เล่าว่า ในคืนหลังวันเกิดเหตุช่วงรุ่งเช้าของวันที่ 12 ต.ค.63 เวลาประมาณ 04.00 น. เศษ ขณะนอนอยู่ในบ้านย่านวัดบางโปรง ถนนปู่เจ้าสมิงพราย อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตนได้ยินเสียงบุตรชาย คือ นายปัญจพล ร้องเรียกถึง 2 ครั้งว่า “แม่ แม่” ซึ่งในขณะนั้นตนมีสติเพราะเริ่มจะตื่นนอนแล้วและไม่ได้ฝันไป เนื่องจากเป็นเวลาที่บุตรชายจะออกจากบ้านไปทำงานที่ไปรษณีย์ตามปกติในทุกๆ วันพอดี จึงเชื่อว่าบุตรชายได้กลับบ้านมาหาตน ขณะเดียวกันยังมีบุตรสาวคนในบ้านที่นอนอยู่ด้วยกัน ได้ยินเสียงของการเปิดปิดประตูเข้าออกบ้านที่บริเวณชั้นล่างด้วย แต่หลังจากคืนวันนั้นเขาได้หายไป และเมื่อคืนก็ไม่ได้มาหาอีก ในวันนี้จึงมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของบุตรชายกลับบ้าน ตอนนี้ยังทำใจอะไรไม่ได้เลย เพราะการจากไปของเขามันเร็วเกินไปโดยที่เขาอายุยังน้อย นางสุดท้าย กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างพิธีเชิญดวงวิญญาณ นางสุดท้าย ได้รำพันเรียกแต่ชื่อบุตรชาย และบอกให้เขากลับบ้านอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ น.ส.ปิยะดา ผู้เป็นภรรยาได้แต่นั่งสะอื้นจนน้ำตาปริ่มไหลหยดออกมาอาบแกล้มอยู่เป็นระยะ