ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์การ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) NIDA โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Warat Karuchit ว่า... บังเอิญได้เห็นคอมเมนต์ที่โจมตีในหลวง ร.9 ซึ่งตอนนี้ค่อยๆเปิดตัวมากขึ้นเรื่อยๆ อ่านไปตอนแรกก็ไม่พอใจ แต่ตอนหลังเริ่มรู้สึกว่า สงสารคนเหล่านี้ เพราะ 1. เขาเป็นคนโชคร้ายอย่างที่สุด เกิดมาในรัชสมัยของธรรมราชาแท้ๆ ได้เห็นหรืออย่างน้อยก็ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆที่พระองค์ได้ทรงทำ พระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆที่ไม่ใช่แค่ชาวไทยเท่านั้นที่ยกย่อง แต่ทั่วโลกต่างสรรเสริญพระเกียรติคุณ หรือแม้แต่พระอริยสงฆ์มากมายก็ยกให้พระองค์เป็นอริยบุคคล แต่คนเหล่านี้กลับไม่รู้สึกซึมซับ ไม่ภาคภูมิใจ ไม่ซาบซึ้งถึงความโชคดีของตนเอง ที่คนอื่นอีกมากมายไม่มีโอกาส 2. เขาขาดที่พึ่งทางใจอันเป็นบุคคลอันประเสริฐ เราทุกคนเกิดไม่ทันพระพุทธเจ้า หรือศาสดาของศาสนาใด แต่คนไทยในรัชสมัยของพระองค์โชคดีอย่างที่สุดมีพระองค์ทรงเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจมากว่า 70 ปี ได้มีพระองค์เป็นผู้นำประเทศ ได้รับฟังพระราชดำรัส พระบรมราโชวาท อันเป็นธรรมะชั้นสูง ที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ที่ทรงแสดงให้เห็นด้วยพระองค์เอง จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า หากคนเหล่านี้ไม่นับถืออริยบุคคลเช่นพระองค์แล้ว จะนับถือบูชาอะไรเป็นสรณะ? 3. เขาเป็นคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยความร้อนรุ่ม และหาความสุขในชีวิตได้ยาก ที่จำต้องฝืนทนอยู่ในสังคมที่เคารพนับถือ จงรักภักดีต่อพระองค์ ไปตลอดชั่วชีวิต เห็นคนไทยแสดงความอาลัย สดุดีพระเกียรติคุณของพระองค์ทีไรก็คงจะรู้สึกหมั่นไส้ เห็นคนใส่เสื้อเหลือง เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ก็ร้อน และจะแสดงความเห็นอย่างที่ตนต้องการก็ต้องหลบๆซ่อนๆ เกรงกลัวการต่อต้านจากสังคม หรือกลัวทำผิดกฎหมาย แม้ตอนนี้จะเปิดตัวมากขึ้น แต่ทุกครั้งก็จะถูกโจมตีกลับอยู่เสมอ จึงได้แค่รวมตัวกันอยู่เพียงสังคมกลุ่มเล็กๆที่คิดเห็นเช่นเดียวกัน และเทิดทูนบูชาผู้ที่ต่อต้านความดีที่พระองค์ทำ ซึ่งความดีในนิยามของคนเหล่านี้ คงจะมีความแตกต่างอย่างยิ่งกับแบบแผนและวัฒนธรรมของสังคมไทยที่เรายอมรับ จริงๆแล้วคนเหล่านี้ อาจจะไม่ใช่คนไม่ดีในเนื้อแท้ และอาจจะคิดว่าเขาโชคดีที่ "ตาสว่าง" แต่สำหรับผม ด้วยเหตุผลทั้งสามข้อนี้ ทำให้ผมคิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนที่โชคร้ายและน่าสงสารที่สุดกลุ่มหนึ่งในประเทศไทย