"แฟลช เอ็กซ์เพรส" ทุ่มเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 3,000 ล้าน กรุยทางสู่ ASEAN หวังเปิดบริการ 3 ประเทศภายในปีนี้ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ทัดเทียมสากล เติบโตคู่ไปกับ อี-คอมเมิร์ซ ได้อย่างมั่นคงในระยะยาว นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งสัญชาติไทยแบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทฯ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ได้กลายมาเป็นโอกาสให้ธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ มีตัวเลขที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนส่งผลให้ภาคขนส่งกลายเป็นธุรกิจเนื้อหอมของตลาดไปโดยปริยาย โดยในส่วนของ แฟลช เอ็กซ์เพรส บริษัทฯ มีอัตราเติบโตสวนทางกับวิกฤติเศรษฐกิจ มีการเติบโตสูงถึง 3,000% นอกจากนี้ธุรกิจยังมีการขยายสาขาและรับพนักงานเพิ่มในทุกวัน เฉลี่ยวันละ 100 คน ทำให้ล่าสุดบริษัทฯ มีพนักงานจำนวนมากกว่า 23,000 คน และเมื่อไม่นานมานี้ แฟลช เอ็กซ์เพรส ยังได้รับความสนใจจากกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ในไทยที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของบริษัทฯ ได้เข้ามาร่วมทุนด้วยเม็ดเงินกว่า 3,000 ล้านบาท หรือราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป้าประสงค์หลักของการร่วมทุนในครั้งนี้ คือ การนำเอาศักยภาพ และจุดเด่นของแต่ละธุรกิจเข้ามาผสานรวมกันเพื่อพัฒนาโมเดลธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจ E-commerce รวมถึงการพัฒนาระบบขนส่งในรูปแบบ Ecosystem ที่สามารถเชื่อมโยงกับ supply chain ได้อย่างครบวงจร ตลอดจนพัฒนาระบบขนส่งให้เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในภาคบริการอื่นๆ ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น นายคมสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมทุนครั้งนี้นับว่าเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจในกลุ่ม new s-curve ได้แก่ อุตสาหกรรมด้านพลังงานและโลจิสติกส์ ต่อยอดไปยังกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และธุรกิจการเงินเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในตลาด อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้นำ Trends Digital 4.0 เข้ามาเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มลูกค้าในธุรกิจรวมไปถึงการสร้างและขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านแพลตฟอร์มทางการเงิน การนำระบบ e-Payment เข้ามาใช้ในระบบขนส่ง ให้เกิดเป็น อี-คอมเมิร์ซ แบบครบวงจรมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นจะสามารถช่วยหนุนให้ประเทศไทยพร้อมเดินหน้าเข้าสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งยังจะสร้างคุณค่าและประโยชน์ให้แก่สังคม ชุมชน และประเทศในภาพรวมได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย "ภาพรวมและทิศทางธุรกิจของ แฟลช เอ็กซ์เพรส หลังจากนี้ผู้ใช้บริการจะได้เห็นการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ธุรกิจมีความสอดรับกับการแข่งขันในปัจจุบัน ทั้งการออกโปรโมชั่นและแคมเปญต่างๆ ที่นอกจากจะยืนหนึ่งเรื่องราคาที่ถูกที่สุดแล้วนั้น ยังต้องมาพร้อมกับบริการที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี2020 เรายังโฟกัสในส่วนการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศ AEC ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มขนส่งแบบใหม่ที่สามารถเชื่อม AEC และประเทศไทยให้เป็นแผ่นดินเดียวกัน ตามนโยบายที่เราตั้งใจไว้ตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำธุรกิจนี้ ยิ่งไปกว่านั้น คือ การนำเอาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจากต่างประเทศเข้ามาผสมผสานหลอมรวมเป็น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ รูปแบบใหม่ที่ไม่มีเจ้าไหนกล้าลงทุน หรือทำมาก่อน ซึ่งเราคาดหวังว่าแพลตฟอร์มนี้จะเป็นต้นแบบของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ระบบขนส่งของไทยเทียบเท่าสากลโลก" นายคมสันต์ กล่าวว่า ในส่วนของการจับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มธุรกิจยักษ๊ใหญ่ในไทย เรามองว่าก่อนหน้านี้การทำธุรกิจส่วนใหญ่อาจจะเน้นแบบ One sided Business หรือการทำธุรกิจแบบทิศทางเดียว แต่หากต้องการแข่งขันเพื่อทำให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้นั้น บริษัทฯ จะต้องมีพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพมากพอ ที่จะช่วยกันประคองไปในทุกสถานการณ์ที่เผชิญไปได้อย่างไม่สะดุด นอกจากนี้การร่วมธุรกิจยังต้องคำนึงถึงคุณค่าที่ลูกค้า และผู้บริโภคจะต้องได้รับ เพราะวันนี้เราต่างทราบกันดีว่าในตลาดมีผู้เล่นมากหน้าหลายตา การให้บริการแทบจะไม่มีความแตกต่างกันมากเท่าไร แต่เราจะสร้างคุณค่าและสร้างความแตกต่างอย่างไรเพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้บริการของเราเมื่อเปรียบเทียบกับบริการของคู่แข่ง ด้วยปัจจัยทั้หมดนี้จึงทำให้เราต้องเร่งพัฒนาบริการของเรา พร้อมทั้งการสร้างโครงการใหม่ๆ เพื่อเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงใจ สิ่งสำคัญ คือ เราจะทำบริการอย่างไรที่จะสามารถช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินต่อได้ในสถานการณ์นี้ สำหรับการเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในครั้งนี้ นับเป็นผลพวงมาจากการระดมทุนของ แฟลช เอ็กซ์เพรส ในรอบ Series D หลังจากนี้ยังมีกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ในไทยที่เตรียมประกาศความเป็นพันธมิตรร่วม โดยอยู่ในระหว่างขั้นตอนการเจรจา ซึ่งคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021