ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาท ระหว่างวันที่ 12-16 ต.ค.63 อยู่ที่ 30.90-31.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามได้แก่ ปัจจัยการเมืองในประเทศ การเจรจา BREXIT กำหนดการดีเบตรอบสองของนายโดนัลด์ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน และบทสรุปของมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดนิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟีย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนต.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามเครื่องชี้เศรษฐกิจเดือนก.ย.ของจีนด้วยเช่นกัน สำหรับเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ 31.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยการแข็งค่าของเงินบาทสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆในเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงเทขาย หลังรายงานข่าวระบุว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์สามารถออกจากโรงพยาบาล กลับมากักตัวต่อที่ทำเนียบขาว ประกอบกับตลาดเริ่มมีความหวังอีกครั้งในเรื่องมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากโควิด-19 หลัง ปธน.ทรัมป์ เปิดโอกาสสำหรับการผ่านบางมาตรการออกมาก่อนเลือกตั้ง นอกจากนี้ภาพรวมสกุลเงินเอเชียยังได้อานิสงส์เพิ่มเติมในช่วงปลายสัปดาห์ตามสัญญาณการแข็งค่าของเงินหยวนหลังตลาดการเงินจีนกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังจากช่วงวันหยุดยาว