รองผบ.ตรพร้อมรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ลงตรัง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแหกเรือนจำกระบี่ พร้อมผู้ต้องหาร่วมคดีรวม3 นาย จัดหน่วยตำรวจชุดอรินทรราช (S.W.A.T)ควบคุมตัวผู้ต้องหารักษาความปลอดภัยเข้ม  ขณะที่รอง ผบ.ตร.สั่งการไล่ล่าผู้ต้องหาอีกรายที่หลบหนี วันที่10ตุลาคม2563 ความคืบหน้าคดีนักโทษชายจำนวน 2 คน แหกคุกเรือนจำจังหวัดกระบี่ เมื่อคืนวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ประกอบด้วย นักโทษชายอานนท์ เด็นหมาด อายุ 32 ปี ชาว ต.คลองลุ อ.กันตัง จ.ตรัง และนักโทษชายมลฑล ขันสมาน อายุ 47 ปี ชาว อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ทั้ง 2 คน เป็นนักโทษคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้จัดชุดติดตามไล่ล่า ไปตามภูมิลำเนา บ้านญาติ พี่น้อง รวมทั้งเพื่อนฝูง ที่คิดว่านักโทษทั้ง 2 คน จะหลบหนีไปขอความช่วยเหลือ พร้อมกับมีการตั้งค่าหัวรางวัลนำจับรายละ 50,000 บาท                                          กระทั่งเมื่อวันที่9ตุลาคม 2563 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมนักโทษชายอานนท์ เด็นหมาด อายุ 32 ปี ชาว ต.คลองลุ อ.กันตัง จ.ตรัง ภายในขนำไม่มีเลขที่ ภายในบ่อเลี้ยงกุ้ง บ้านบางค้างคาว-ทุ่งเสม็ด หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิกา จ.ตรัง พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก พร้อมทั้งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อีกกว่า  3,000 - 4,000 เม็ด                    ล่าสุดเมื่อเวลา13.00น.วันที่10ตุลาคม 3563 ที่กองบังคับการภูธรจังหวัดตรัง ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหามาที่กองบังคับการเพื่อเตรียมแถลงข่าว โดยมี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และพล.ต.ต.สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ร่วมแถลงข่าวท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นมีการนำตำรวจชุดอรินทราช(S.W.A.T)ควบคุมตัวผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้ต้องหาประกอบด้วย1.นายอานนท์  เด็นหมาด อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56  ต.กันตังใต้ อ.กันตัง จ.ตรัง ( ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ ที่  467/2563 ลงวันที่ 1 ต.ค. 2563 ) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “หลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ได้กระทำโดยแหกที่คุมขัง” พร้อมเพื่อนอีก 2 คน  ซึ่งประกอบด้วย นายนฤเบศ  พินประพันธ์  อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189 ม.18 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ ที่  413/2563 ลงวันที่ 19 ส.ค. 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบ” และ3.นายทรรปณะ รัญวาสี อายุ 19  ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/1 ม.7 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง  1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) จำนวน 2,067 เม็ด 2. อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ กล๊อก  ขนาด 9 มม.  จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนอยู่ในแม็กกะซีน จำนวน 19 นัด  3. อาวุธปืนลูกโม่ .38 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนบรรจุอยู่ในลูกโม่ง จำนวน 6 นัด 4. อาวุธปืนชนิด เดี่ยวลูกซองยาว  จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปกืนเบอร์ 12 จำนวน 9 นัด 5. เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 31 นัด  .เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 นิ้ว จำนวน 55 นัด 6. รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน บม 4190 กระบี่ จำนวน 1 คัน ที่ผู้ต้องหาที่ 1 ใช้ขับหลบหนี โดยแจ้งข้อกล่าวหา  ให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ทราบว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต  ทั้งนี้เจะดำเนินคดีที่ตรังในคดียาเสพติด อาวุธปืน และมีหมายจับค้ายาเสพติดที่จ . ตรัง ด้วย  จึงจะยังไม่ส่งไปดำเนินคดีที่ จ.กระบี่ ต่อมาพล.ต.อ.สุชาติ แถลงถึงรายละเอียดของคดีว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่จับกุมได้พร้อมนักโทษชายอานนท์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแหกคุกของนายอานนท์ และนายมลฑล ขันสมาน อายุ 47 ปี หลังออกจากเรือนจำได้ก็มีรถมารับ ทั้งนี้ ทางตำรวจทราบเบาะแสคนช่วยเหลือแล้ว รวมทั้งจะเอาผิดทั้งคนพาหลบหนี และให้ที่พักพิง โดยตำรวจภูธรทั้งภาค 8 และภาค 9 ทำงานติดตามร่วมกันมาตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่ามาหลบหนีอยูบ้านเครือญาติในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จึงวางแผนเข้าจับกุมได้ดังกล่าว  และทั้ง 3 คนจะต้องถูกดำเนินคดีที่ตรังทั้งหมด เพราะมีการกระทำความผิดซึ่งหน้าระหว่างการจับกุมคือ ยาเสพติดและอาวุธปืน ในขณะหลบหนีมีรถไปรับ " ส่วนนักโทษชายอีกคนที่ยังหลบหนีขอไม่เปิดเผยในรายละเอียด ส่วนเหตุผลของการก่อเหตุแหกคุกในครั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การกลับไปกลับมา พยายามปกปิดหลายอย่าง เพื่อช่วยเหลือนักโทษอีกคนที่ยังหลบหนี ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจจะเร่งสอบปากคำต่อไป และมั่นใจว่าจะสามารถติดตามอีกคนที่เหลือได้ ทั้งนี้ ทราบว่านักโทษที่เหลือขณะนี้มีพยายามหาอาวุธปืนไว้ในครอบครอง  ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มปฏิบัติการเข้มยิ่งขึ้น" พล.ต.อ.สุชาติ กล่าว ทางด้าน พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่พบเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแหกคุกของนักโทษ  แต่คงเป็นเพราะนักโทษพยายามหลบหนีตลอดเวลา โดยเฉพาะ 1 ใน 2 คน เข้าออกเรือนจำแล้วเป็นครั้งที่ 5 พยายามจะแหกคุกแล้วหลายครั้ง เช่น การออกอุบายกินสบู่กับน้ำส้ม เพื่อให้ถูกส่งไปรักษาตัวด้านนอก แต่เมื่อพากลับมาทางเรือนจำก็ต้องพาเข้าห้องกักกันโรค ในช่วงสถานการณ์โควิด และคงพบเห็นโครงสร้างเรือนจำกระบี่ไม่แข็งแรง แม้จะมีลูกกรงเหล็ก แต่มีไม้เป็นส่วนประกอบ อายุเก่าแก่กว่า 70 ปี จึงทำให้นักโทษซึ่งพยายามคิดหลบหนีมาตลอด หาช่องทาง เพราะไม้สามารถดัดได้ จึงเป็นข้อบกพร่อง หละหลวมของเรือนจำในส่วนนี้ ที่ดูแลได้ไม่ดีพอ หลังจากนี้คงต้องดำเนินการปรับปรุงใหม่ให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น  ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่จับกุมได้ในครั้งนี้ รวมทั้งนักโทษชายอานน์ จะต้องถูกดำเนินคดีที่จังหวัดตรัง โดยนายอานนท์ มีทั้งคดีเก่า คือ ยาเสพติดเรือนจำกระบี่ หมายจับคดีฆาตกรรม ศาลจ.พัทลุง  อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะคุมตัวทั้ง 3 คน ไว้สอบสวนเข้มต่อไป ตามอำนาจหน้าที่ โดยแยกขังตาม สภ.ต่างๆ