นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการ ที่จะมีการพิจารณาจะสรุปในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ว่า ยังมองเป็นเรื่องการยื้อเวลา และหากมีการโหวตคว่ำในสมัยประชุมหน้าก็จะทำให้ญัตติต่างๆ รวมถึงร่างแก้ไขเพิ่้มเติมรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนไม่ได้รับการพิจารณาในสมัยประชุมครั้งหน้าได้ แต่เชื่อว่าตามข้อบังคับข้อที่ 41 หากมีความจำเป็นประธานรัฐสภา ก็ยังสามารถที่จะนำร่างของภาคประชาชนเข้ามาพิจารณาใหม่ได้ จึงหวังว่าในสมัยประชุมหน้า ก็ยังคุยเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อยู่ ถ้าประธานรัฐสภาเห็นว่ามีความจำเป็น ส่วนการที่กรรมาธิการร่วมจะมีมติในวันที่ 14 ต.ค.ซึ่งมีการเคลื่อนไหวชุมนุมอยู่นอกสภาฯ นายพิธา กล่าวว่า ทุกคนต้องรู้ร้อนรู้หนาวกับความต้องการประชาชน รู้ร้อนรู้หนาวกับวิกฤตบ้านเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นใจของประชาชน ถ้าต้องการผ่อนอุณหภูมิทางการเมืองอย่างน้อยน่าจะมีการโหวต และบอกทิศทางของประเทศจะเป็นอย่างไร เพราะการเตะถ่วงไม่น่าจะเป็นผลดี เพราะมีการประท้วงเกิดขึ้น และจะยิ่งเป็นการเพิ่มอุณหภูมิ ถ้าสภาไม่สามารถเป็นหลักในการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ ก็เท่ากับเป็นการผลักประชาชนออกไปนอกสภา ไปอยู่บนท้องถนน ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลไม่ต้องการ อย่างไรก็ตามยืนยันที่จะไปร่วมชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.นี้ ส่วนข้อกังวล ว่าพื้นที่ชุมนุมอยู่ในเส้นทางเสด็จ คิดว่าภาครัฐ และตำรวจน่าจะมีความสามารถในการจัดการให้เกิดความเรียบร้อย และเป็นการชุมนุมอย่างสงบได้