สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การอภิปรายโต้วาที หรือดีเบต ระหว่างรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกัน วัย 61 ปี และนางกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต วัย 56 ปี ซึ่งมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยยูทาห์ เมืองซอลต์เลคซิตี รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐฯ ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ภายหลังจากการดีเบตเริ่มมีขึ้น เมื่อเวลา 19.00 น.ของวันพุธที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลาประมาณ 08.00 น.ของวันพฤหัสบดี ตามวันเวลาในไทย ซึ่งมีนางซูซาน เพจ จากหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างราบเรียบ โดยมีการพูดจังหวะระหว่างกันมีเพียงเล็กน้อย รายงานข่าวแจ้งว่า การดีเบตได้เริ่มกันที่ประเด็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 โดยนางแฮร์ริส ได้หยิบยกถึงความล้มเหลวในการรับมือไวรัสโควิดฯ ของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาโจมตี ขณะที่ นายเพนซ์ ได้กล่าวปกป้องว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ให้ความสำคัญในชีวิตของชาวสหรัฐฯ นับตั้งแต่วันแรกๆ ที่เกิดการแพร่ระบาด แต่เพราะการไม่สามารถระงับการเดินทางมาจากจีน ซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ได้ทั้งหมด จึงเกิดการแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ผู้สมัครรับเลือกตั้งรองประธานาธิบดีทั้งสองคน ได้ดีเบตเรื่องเศรษฐกิจ ด้วยการหยิบยกเรื่องการจัดเก็บภาษี กับเรื่องสวัสดิการของชาวสหรัฐฯ และการว่างงงาน ขึ้นมาอภิปราย นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นโยบายต่างประเทศเกี่ยวกับจีน การเสนอชื่อผู้พิพากษาศาลฎีกาคนใหม่ ตลอดจนเรื่องกระบวนการยุติธรรมคดีอาญา รวมถึงสีผิว ถูกหยิบยกขึ้นมาดีเบต ภายหลังจากเสร็จสิ้นการดีเบต ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์นางเพจ ผู้ดำเนินรายการว่า ปล่อยให้คู่ดีเบตหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามมากเกินไป และควบคุมเวลาการอภิปรายของแต่ละฝ่ายไม่ดีเท่าที่ควร