เมื่อวันที่ 2 ต.ค.63 นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” โดยระบุว่า ตนได้รับข้อมูลจากประชาชนกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้ยกวาทะกรรมของ Maximilien Robespierre (มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์ )ไม่เห็นด้วยกับพระราชอำนาจของกษัตริย์ในการยับยั้งกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากสภา เป็นจิตวิทยาการเมือง ซึ่ง นายปิยบุตร เป็นนักกฎหมายแต่ลืมประวัติศาสตร์ชาติไทย ทั้งนี้ การที่จะชี้นำประชาชนควรดูถึงรากเหง้าประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมจารีตประเพณีของชนชาตินั้นๆด้วย แผ่นดินนี้เป็นประเทศไทยไม่ใช่ประเทศฝรั่งเศส อย่ายกวาทะกรรมนักปฏิวัติชาวต่างชาติขึ้นมา นายสามารถ กล่าวอีกว่า สำหรับประวัติของนาย มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์ เป็นบุคคลที่มีบทบาทในช่วงการปฏิวัติประเทศฝรั่งเศสในการยึดอำนาจสถาบันแต่เมื่อ นาย มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์ ได้กุมอำนาจของประเทศแล้วกลับกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ปรานี จนนำไปสู่ความหายนะและความน่าสะพรึงกลัว นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามจำนวนมากล้วนถูกประหารชีวิตด้วยเครื่องกิโยติน โดยส่วนตัวผมไม่เข้าใจว่า นายปิยบุตร นำวาทะกรรมของบุคคลดังกล่าวมาเพื่อต้องการให้เกิดการกวาดล้างของฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ และมุ่งเป้าไปที่สถาบันอันเป็นที่รักของประชาชนคนไทยทั้งประเทศหรือไม่ อีกทั้ง ยังพูดเรื่องมุ่งเป้าการโจมตีการทหารซึ่งเป็นนโยบายแนวคิดของ นายปิยบุตร เพื่อทำให้สถาบันทหารอ่อนแอและส่งผลต่อสถาบันอันเป็นที่รักของประชาชนโดดเดี่ยว ตนคิดว่า นายปิยบุตร ควรพูดความจริงได้แล้วควรหันมาศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศไทยมากกว่านี้จะดีกว่า "ผมขอยกประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นให้นายปิยบุตรได้ทราบว่าบรรยากาศในช่วงเวลานั้น คือยุคสมัยแห่งความสะพรึงกลัวได้มีการใช้เครื่องกิโยตินสังหารบุคคลสำคัญเป็นจำนวนมาก อาทิ อ็องตวน-โลร็อง เดอ ลาวัวซีเย นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นกฎการอนุรักษ์มวล ที่มีส่วนช่วยปรับปรุงระบบการคลังภาษีของฝรั่งเศส แต่ถูกคณะปฏิวัติฝรั่งเศสกล่าวหาว่าเป็นกบฎ ต้องถูกตัดศรีษะ ในวันที่ 8 พ.ค.1794 รวมถึง มารี-อองตัวเน็ต เจ้าหญิงแห่งฮังการี แคว้นโบฮีเมีย อาร์คดัชเชสแห่งออสเตรีย ราชินีฝรั่งเศส และ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ที่ รอแบ็สปีแยร์ เรียกร้องให้สอบสวนอดีตผู้นำในข้อหากบฏ ส่งผลให้ทั้งคู่โดนคมมีดของเครื่องกิโยตินเช่นกัน อีกหนึ่งการกระทำที่สร้างความไม่พอใจให้คนส่วนใหญ่นอกจากจับกุมคนและสั่งตัดหัวคือ การตั้งตนเป็นปรปักษ์กับศาสนจักรคาทอลิก มักซีมีเลียงรอแบ็สปีแยร์ ประกาศยกเลิกปฏิทินแบบคริสต์ศักราชแล้วตั้งปฏิทินของตัวเองขึ้นมาใช้แทน ตั้งวันสำคัญและเทศกาลใหม่ เปลี่ยนชื่อถนนใหม่ พยายามลบประวัติศาสตร์เก่าด้วยการแทนที่สิ่งใหม่เข้าไป จับกุมบาทหลวงในโบสถ์หลายแห่งทั่วฝรั่งเศสมาตัดหัว พยายามรณรงค์ให้ผู้คนเลิกนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ทำให้ผู้มีศรัทธาในคริสต์ศาสนารู้สึกรับไม่ได้ แถมเคยมีบันทึกว่าเพียงแค่ 4 วัน คณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะสังหารชาวฝรั่งเศสไป 1,600 คน ในเวลาไม่ถึงปีมีคนถูกจับกว่า 300,000 ราย โดนประหารชีวิตด้วยกิโยตีนมากกว่า 17,000 คน ในยุคสมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัวมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วกว่า 40,000 คน ศพไร้หัวถูกถมอยู่เต็มรถลาก รอนำร่างไร้วิญญาณออกไปนอกเมือง ทั่วทั้งจัตุรัสเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและบรรยากาศชวนคลื่นเหียน ทั่วทั้งประเทศถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกแห่งความหวาดกลัวจากอำนาจเผด็จการหัวรุนแรง แม้ประชาชนหลายคนยังคงกลัว พากันหลบซ่อน ใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่คนส่วนหนึ่งโดยเฉพาะคนใกล้ชิดของมักซีมีเลียงเริ่มเหลืออดกับการปกครองแบบนี้ พวกเขาจึงเริ่มคิดหาทางโค่นมักซีมีเลียงลงจากอำนาจ" นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนไม่เข้าใจว่า นายปิยบุตรชอบพูดว่า เกลียดการรัฐประหาร เกลียดเผด็จการแต่กลับยกคำพูดของ มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์ ซึ่งมีแนวคิดไปทางเผด็จการและล้มล้างการปกครอง ตนคิดว่านายปิยบุตรมีแนวคิดเช่นนี้แต่ปากบอกรักประชาธิปไตย แท้จริงแล้วหาเป็นอย่างนั้นไม่ วันนี้อยากให้ นายปิยบุตร เลิกให้ร้ายประเทศชาติและข้อมูลเท็จต่อประชาชน ผมอยากให้นายปิยบุตรมี ความกตัญญูกตเวทีซึ่งเป็นเครื่องหมายของคนดี แต่ถ้าหากไม่รักประเทศไทยก็ควรไปอยู่ประเทศฝรั่งเศสกับภรรยาจะดีกว่าตามประชาชนเขาเรียกร้อง