"อว."ยกเลิกหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ.2563 ชี้มีปัญหาในทางปฏิบัติ ตั้ง “ศันสนีย์ – สมคิด” ยกร่างใหม่ 3 เดือนเสร็จ ใช้เกณฑ์ปี 60 เป็นหลัก แต่เอาข้อดีของเกณฑ์ปี 63 มาเพิ่มเติม พร้อมสั่งเยียวยาข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา 36,300 คน ใช้งบกว่า 8 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ต.ค.63 ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการ รมว.อว. และคณะผู้บริหารลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมมหาวิทยาลัยนเรศวร(มน.) และปาฐกถาพิเศษ “บทบาทสถาบันอุดมศึกษาในภูมิภาคเพื่อสร้างขีดความ สามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม” มีนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และ ดร.กาญจนา เงารังสี อธิการบดี มน.ให้การต้อนรับ ศ.ดร.เอนก กล่าวว่า อว.เดินหน้ายกเลิกหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ.2563 โดยคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา(ก.พ.อ.) ที่ประชุมไปเมื่อ 28 กย นี้ได้พิจารณาเห็นว่าหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ.2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติกับการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ ซึ่งในการประชุม ก.พ.อ.ที่ผ่านมา ได้กำหนดระยะเวลาผ่อนผันในช่วงเปลี่ยนผ่านเกณฑ์เป็นระยะเวลา 2 ปี คือตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.2563 ถึงวันที่ 23 มิ.ย.2565 ให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ.2560 คู่ขนานกับหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ.2563 ได้ โดยมอบหมาย ศ.ศันสนีย์ ไชยโรจน์ ประธานคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับตำแหน่งทางวิชาการ กับ ศ.สมคิด เลิศไพฑูรย์ ที่ปรึกษา รมว.อว.เป็นผู้รับผิดชอบยกร่างหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดตำแหน่งทางวิชาการขึ้นใหม่ โดยยึดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจาณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ.2560 เป็นหลัก แล้วนำหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ.2563 ในส่วนที่ดีและเหมาะสมมาปรับใช้ต่อไป ทั้งนี้ ก.พ.อ.ได้กำหนดระยะเวลาดำเนินการไว้ 3 เดือน ศ.ดร.เอนก กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเยียวยาข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา กรณีข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษาได้ปรับอัตราเงินเดือนเพิ่ม ทั้งนี้ ก.พ.อ.ได้รับทราบความคืบหน้าการกำหนดมาตรการเยียวยาข้าราชการฯ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2554 คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลในสถาบันอุดมศึกษาได้เสนอให้เยียวยาข้าราชการฯ ที่ดำรงตำแหน่ง ณ วันที่ 31 มี.ค.2554 ให้ได้รับเงินเยียวยาส่วนเพิ่ม ร้อยละ 8 ของอัตราเงินเดือน ณ วันที่ 31 มี.ค.2554 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ข้าราชการ ผู้นั้นเกษียณอายุราชการ หรือพ้นสภาพเป็นข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ทั้งนี้ จากการประมาณการ พบว่า มีข้าราชการฯ ที่จะได้รับการเยียวยา 36,300 คน ทั้งบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน ใช้งบประมาณ 8,029 ล้านบาท โดยให้เฉลี่ยจ่ายคืนภายใน 5 ปี อย่างไรก็ตาม เพื่อความรอบคอบ อว.จะนำข้อกฎหมายหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา ใน 2 ประเด็น โดยประเด็นแรก การเยียวยาจะกระทำย้อนหลังไปถึงวันที่เกิดเหตุของความไม่เป็นธรรม คือวันที่ 31มี.ค.2554 ได้หรือไม่ และประเด็นที่สอง เงินเยียวยาจะต้องกำหนดให้เป็นเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ อย่างไร เมื่อได้คำตอบแล้ว ก.พ.อ. จะพิจารณากำหนดมาตรการการเยียวยาให้ถูกต้องและเหมาะสมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป