เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าพบเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อหารือระเบียบและข้อกฎหมายในการตั้งศูนย์ปฏิบัติการ(ศปก.ศบค.) ขึ้นในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 (โควิด-19) ศบค.ว่า เมื่อสถานการณ์โควิดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่มีหลายศูนย์อยู่ในศบค.ทั้งฝ่ายแพทย์ ฝ่ายกักตัว และในวันนี้ที่ยังต้องขยายเวลาใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่เพื่อไปควบคุม หรือไปทำอะไรใคร แต่ต้องการบูรณาการงาน สนธิกำลังหรือทำให้เกิดความเป็นเอกภาพ เพราะการมีหลายศูนย์ในศบค.นั้นอาจจะกระจัดกระจายเกินไปแล้วไม่เป็นเอกภาพ ซึ่งพล.อ.ณัฐพล เห็นว่าในเมื่อศบค.ต้องการสร้างความเป็นเอกภาพ ต้องการบูรณาการ จึงคิดและเสนอมาให้ตั้งศปก.ศบค. ซึ่งเป็นศูนย์ในขั้นปฏิบัติการ จึงต้องการรวมเข้ามาเป็นศูนย์ปฏิบัติการหรือศปก. เพื่อเป็นการกลั่นกรองเรื่องก่อนจะเสนอเข้าศบค.ชุดใหญ่ เพื่อศบค.ใหญ่เสนอเข้าครม. จะได้เป็น 3 ชั้น รอบคอบดี เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป วันนี้เราจึงต้องรวมเข้ามา โดยมีเลขาฯ สมช.เป็นประธาน ซึ่งในทางปฏิบัติที่ผ่านมา เลขาฯ สมช.เป็นอยู่แล้ว  ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าตั้งศปก.ศบค.นี้ขึ้นมาเพื่อรับมือการระบาดรอบสองของโควิด-19 หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เพื่อทำให้มีความทะมัดทะแมงและรวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าโควิด19 ระบาดระลอกสอง ก็ต้องกลับไปใช้โครงสร้างเดิมทั้งหมด เพื่อกระจายงานออกไปเหมือนเดิม ไม่เช่นนั้น จะไม่ทัน แต่ที่ตั้งครั้งนี้ เพราะสถานการณ์มันบรรเทาลง และขณะเดียวกัน การที่ศบค.เปิดผ่อนผันตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะเตรียมรับมือ ไม่ว่าจะลงภูเก็ต ลงสุวรรณภูมิ จึงเป็นเหตุที่ศปก.ศบค.จะต้องเตรียมรับมือในส่วนนี้ด้วย นั่นคือการรับมืออย่างรวดเร็ว ซึ่งการตั้งศปก.ศบค.ดังกล่าว ทุกฝ่ายเห็นชอบ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้เป็นการลิดรอนหรือตัดอำนาจใครและไม่ได้เพิ่มอำนาจให้ใคร