นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะมีการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2563 ใหม่อีกครั้งในเดือน ต.ค.63 โดยคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2563 ว่าจะขยายตัวได้ดีกว่าในช่วงไตรมาส 2/2563 ที่ตัวเลขจีดีพีขยายตัวติดลบสูงถึง 12.2% เนื่องจากสัญญาณเศรษฐกิจในเดือน ก.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมา มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะเป็นที่เท่าไหร่ยังต้องรอดูตัวเลขในเดือน ต.ค.นี้อีกครั้ง แต่ภาพรวมในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.63 ถือว่ามีสัญญาณที่ดีขึ้นตามลำดับ
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือน ส.ค.63 ยังคงชะลอตัว แต่มีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม การส่งออกสินค้าและการบริโภคภาคเอกชนที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากผลการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ที่ปรับตัวดีขึ้นที่ระดับ 4.3% ส่วนรายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ 9.2% ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันมาอยู่ที่ระดับ 51 หลังจากรัฐบาลดำเนินมาตรการผ่อนคลายการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น รวมถึงผลจากมาตรการเยียวยาในช่วงก่อนหน้า ช่วยให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น
ส่วนการลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าจากการนำเข้าสินค้าทุนและปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่ปรับตัวดีดีขึ้น ส่วนการส่งออกสินค้า ติดลบ 7.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยตลาดคู่ค้าหลักของไทยเกือบทุกตลาดปรับตัวดีขึ้นทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอาเซียน 9 ประเทศ สะท้อนถึงแนวโน้มการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจาประเทศคู่ค้ามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนภาคการท่องเที่ยว ขณะนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ตั้งแต่ เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศปรับตัวดีขึ้น จากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยที่หดตัวในอัตราชะลอลงที่ติดลบ 32.4% ต่อปี
ขณะที่ในส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ ติดลบ 0.5% ต่อปี และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 0.3% ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาอยู่ที่ 47% ต่อจีดีพี ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคงและสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ส.ค.63 ที่ระดับ 254.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ