มูลนิธิคนดี(ประเทศไทย) ร่วมกับ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จัดพิธีมอบรางวัล โครงการ “คนดี ประเทศไทย” ปีที่ 8 ประจำปี 2558-2559 เพื่อเชิดชูยกย่องคนดีและสร้างขวัญกำลังใจให้ทำความดียิ่งๆขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สังคม. โดยได้รับเกียรติจาก ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบโล่เกียรติยศ ณ ห้อง 1111 A ชั้น 11 อาคารซีพี ทาวเวอร์ ถ.สีลม นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย กล่าวว่า บริษัทฯ มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับ มูลนิธิคนดี(ประเทศไทย) และสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย จัดโครงการมอบรางวัล “คนดีประเทศไทย” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เพื่อจุดประกายให้ผู้คนในสังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของการทำความดี และชี้ให้เห็นว่าการทำความดีเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง น่าภาคภูมิใจ ควรจะได้รับการเชิดชูให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคม การทำความดีเป็นเรื่องที่ไม่มีข้อจำกัด ซึ่งในสังคมนี้มีคนที่เป็นคนดีอยู่มากมาย "ในปีนี้ได้มีการมอบรางวัลเพิ่มเติม คือ รางวัลคนดีประเทศไทย สาขาสื่อมวลชน ข่าวส่งเสริมเยาวชนดีเด่น ประจำปี 2559 จำนวน 26 รางวัล เพื่อเชิดชูสื่อมวลชนที่ได้ร่วมเผยแพร่ข่าวสารคุณงามความดีของเยาวชนให้กับสังคมได้รับทราบอย่างทั่วถึง จึงขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัลนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารางวัลนี้จะเป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญให้ทำความดียิ่งๆขึ้นไปและสร้างความตระหนักในเรื่องการทำความดีให้แก่สังคมมากขึ้น" นายสุวิทย์กล่าว ด้าน นายศิโรจน์ มิ่งขวัญ ประธานมูลนิธิคนดี (ประเทศไทย) และ นายกสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการมอบโล่ที่ชื่อว่า "วัฏจักร" มีความหมายว่า วัฏจักรแห่งการทำความดี เริ่มจากมีผู้กระทำความดี แล้วสื่อสารมวลชนหยิบยกเอาเรื่องที่ดีมานำเสนอ จากนั้นมีองค์กรมูลนิธินำวีรกรรมที่ดีที่ผ่านการนำเสนอทางสื่อมวลชนมายกย่องเชิดชู โดยมีซีพี ออลล์ให้การสนับสนุน ซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการมอบรางวัลสื่อมวลชนส่งเสริมการทำความดี อันเป็นนิมิตรหมายของสี่พลังองค์กร ที่เติมเต็มวัฏจักร เป็นวงล้อที่ขับเคลื่อน การทำความดี อันไม่มีวันสิ้นสุด “รางวัล “คนดี ประเทศไทย” ปีที่ 8 ประจำปี 2558-2559 มีทั้งหมด 5 สาขา คือ 1.สาขาเยาวชน ได้แก่ ด.ช.ธีรพัฒน์ หรือ น้องเจมส์ วงษ์บุญมี อายุ 8 ปี นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนวัดหนองกอไผ่ จ.พิจิตร รับภาระเลี้ยงดูพ่อแม่ที่ป่วยทั้งคู่และต้องอุ้มน้องชาย 1 ขวบ 7 เดือน มาเรียนหนังสือด้วย 2.สาขาประชาชนผู้กล้าหาญ ได้แก่ นายคมกริช เรืองไพศาล จ.นครราชสีมา เป็นพลเมืองดีช่วยจับโจรชิงทรัพย์แม่ค้าแล้วโดนยิงปอดทะลุไขสันหลังจนพิการเดินไม่ได้ตลอดชีวิต ส่วนแม่ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจก็มาเสียชีวิตจากไป 3.สาขาประชาชนสำนึกดี ได้แก่ นายสิริวรรน์ กชเรืองเอี่ยม อายุ 58 ปี ประธานชุมชนคาลเท็กซ์ ถนนพระราม 3 กรุงเทพมหานคร ได้ริเริ่มการทำแปลงเกษตรในเมืองเพื่อสร้างเป็นศูนย์การเรียนรู้ โดยมุ่งหวังให้เยาวชนหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์และยาเสพติด ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ปัจจุบันนี้ได้มีการประสานงานด้านการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)ในเขตยานนาวาเพื่อเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน มีนักเรียนกศน.มาเข้าศึกษาในหลักสูตรประมาณ 200 คน 4.สาขาข้าราชการตำรวจ ได้แก่ ด.ต.มานะ จอกโคกสูง วัย 43 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ช่วยเหลือผู้หญิงครรภ์แก่ใกล้คลอดในช่วงการจราจรติดขัดในเขตพื้นที่กทม.และปริมณฑล ในช่วงที่ผ่านมาได้ช่วยทำคลอดให้กับคุณแม่ท้องแก่ไปแล้วจำนวน 47 ราย 5.สาขานักกู้ภัย ได้แก่ นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ หรือ “นคร45” ได้ทำงานช่วยผู้บาดเจ็บและเก็บศพด้วยใจสาธารณะมากว่า 25 ปี” นายมิ่งขวัญ กล่าวทิ้งท้าย ​