เมื่อวันที่ 27ก.ย.นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีครูใช้ความรุนเเรงกับเด็กนักเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ว่า 2-3เดือน มานี้ การแก้ไขปัญหาเรื่องการใช้ความรุนเเรงทำร้ายร่างกายและจิตใจเด็ก ในโรงเรียน เเทบยังไม่มีทีท่าจะลดจำนวนลง แถมยังเพิ่มความถี่ของเหตุการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่แปลกใจเลยที่เด็กนักเรียนออกมาชุมนุมกันจำนวนมากส่วนหนึ่งเพราะต่อต้านการใช้ความรุนเเรงในสถานศึกษา ซึ่งเกิดจากความล้มเหลวของระบบการศึกษาฯ ก่อนหน้านี้การทำงานของหน่วยงานที่กำกับดูแลเหมือนเเมวไล่จับหนู ชักช้าไม่ทันการก็ว่าเเย่เเล้ว ตอนนี้มีเเต่เสียงของเด็ก เเละผู้ปกครองที่ต้องต่อสู่ฟ้องต่อสังคมด้วยตัวเอง มันเป็นสถานการณ์ที่เเย่ยิ่งกว่า โรงเรียนที่ควรเป็นพื้นที่เซฟโซน เป็นบ้านหลังที่ 2 ของเด็ก กลับกลายเป็นดินเเดนสนธยาอันตราย เพราะบทบาทผู้บริหารทั้งโรงเรียนและกระทรวง ทำเหมือนไม่ได้สนใจเสียงเรียกร้อง ไม่มีการวางแผนเชิงรุก หรือแผนรับมือระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรม และตนคิดว่า กระทรวงฯยังไม่ต้องไปคิดทำนวัตกรรมอะไรใหม่ๆก็ได้ หันมาสะสางปัญหาเดิมๆซึ่งเป็นรากฐานของการศึกษา คือสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักเรียนให้ดีก่อน นายอิสระ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนมองว่า ทั้งครูผู้ก่อเหตุและครูผู้เห็นเหตุแต่ไม่ทำอะไร ควรจะได้รับโทษหนักมากกว่าการไล่ออก ดำเนินคดีเเล้วจบไป จากนั้นก็ไปทำงานที่ใหม่และก่อเหตุซ้ำอีก วนเวียนไปไม่รู้จบแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งผู้ที่เข้าข่ายกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกาย และจิตใจเด็ก ตามมาตรา 26 และ 78 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ในปัจจุบัน มีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท นั้นถือว่าเบามาก สำหรับแม่พิมพ์ของชาติที่ทำตัวเป็นเบ้าหลอมที่บิดเบี้ยว ทำร้าย ทำลาย อนาคตของลูกหลาน จึงอยากเสนอว่า ควรขึ้นบัญชีดำสำหรับผู้ประกอบอาชีพครู ที่ใช้ความรุนเเรงหรือทำอนาจารกับเด็ก และห้ามผู้ที่อยู่ในบัญชีดำ มีโอกาสทำงานในวงการที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนอีกต่อไปได้