ทหารพราน ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และกำลังภาคประชาชน ร่วมซ้อมแผนเผชิญเหตุเสมือนจริงเพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มีความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะเมืองเศรษฐกิจชายแดนใต้ วันที่ 25 ส.ค.59 ที่บริเวณปั้มน้ำมันเอสโซ่ ถนนประชาธิปัตย์ เขตเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา นายดำรง ดีสกูล นายอำเภอเบตง พร้อมด้วย พ.อ.สุวัฒน์ เฉลิมเกียรติ ผบ.ฉก.ทพ.33 และ พ.ต.อ.สุชาติ สอิด ผกก.สภ.เบตง ได้เดินทางมาเยี่ยมชมการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุเสมือนจริง ที่ทางฝ่ายปกครอง และ หน่วยเฉพาะกิจ ทหารพราน ที่ 33 สถานีตำรวจภูธรเบตง กำหนดสถานการณ์ ขึ้น โดยได้มีการจำลองสถานการณ์ว่าคนร้ายได้นำระเบิดคาร์บอมบ์ใส่ไว้ในรถยนต์กระบะอีซูซุ 4 ประตู เข้ามาในจอดในปั้มน้ำมันแล้วก็ ขึ้นจักรยายนต์หลบหนีจนเจ้าหน้าที่สามารถตามสกัดจับกุมได้ ขณะเดียวกันชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด(EOD)ได้เข้าเก็บกู้ได้ทันก่อนที่คนร้ายจะชนวนระเบิดโดยมีเจ้าหน้าที่กองบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเบตง ได้มาเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันการระเบิด ก่อนที่จะมีการประสานงานหน่วยงานต่างๆ เข้าปฏิบัติการตามหน้าที่ และแผนการเผชิญเหตุ จนสามารถคลี่คลายสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ นายดำรง ดีสกูล นายอำเภอเบตง เปิดเผยว่า ในวันนี้กำลัง 4 ฝ่าย ทั้งทหารพราน ตำรวจ ฝ่ายปกครองและกำลังภาคประชาชน ได้มาร่วมกันปฏิบัติฝึกซ้อมแผนป้องกันเมือง เนื่องจากว่ามีกระแสข่าวจะมีการก่อเหตุในเมือง 7 หัวเมืองหลัก จึงได้มีการซ้อมพร้อมกัน ซึ่งหลังจากที่ได้มาชมการฝึกซ้อมตนเองก็พอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็คงจะต้องมีการซักซ้อมให้มากกว่านี้ ส่วนมาตรการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นก็มีการร่วมมือกันในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาชนที่ออกมาช่วยกันทำงาน มีการข่าวที่ดี รวมทั้งฝ่ายตรงข้ามที่กลับเข้ามาอยู่กับเจ้าหน้าที่ก็ให้ข่าวมาตลอด ที่เชื่อว่าจะสามารถสร้างความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่ พ.อ.สุวัฒน์ เฉลิมเกียรติ ผบ.ฉก.ทพ.33 เปิดเผยว่า ในส่วนของทหารพรานก็จะดูในภาพรวม และสนับสนุนการปฏิบัติงานของฝ่ายปกครอง และฝ่ายตำรวจให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พร้อมสนับสนุน และมีส่วนร่วมในการวางแผนในการซักซ้อมทุกขั้นตอน ส่วนพื้นที่รอบนอกเขตเมืองก็คงจะใช้แผนตามปกติ คือ เคลื่อนไหวเข้าไปอยู่กับกำลังภาคประชาชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ส่งเสริมการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ และชุดคุ้มครองตำบล สำหรับการซ้อมแผนในวันนี้ ภาพรวมก็ค่อนข้างดี อาจจะมีจุดอ่อนบ้าง แต่จากการซ้อมบ่อยๆ ในเรื่องของเวลาก็ค่อนข้างสำคัญ ซึ่งการซ้อมกับสถานการณ์จริงก็จะแตกต่างกัน โดยเฉพาะในเรื่องการสับสนวุ่นวาย จึงจะต้องมีการซักซ้อมเพื่อที่จะได้สามารถปฏิบัติงานได้ แต่อย่างไรก็ตาม จะของฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่าทางเจ้าหน้าที่มีความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่ แต่ก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการสังเกตรถต้องสงสัย วัตถุต้องสงสัย ช่วยเป็นหูเป็นตาให้แก่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ด้วย หากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ได้รับทราบต่อไป