ต้องเฝ้าระวังอาการ 14 วัน ทั้งให้เลี่ยงใกล้ชิดผู้สูงวัย-มีโรคประจำตัว ขณะแนะการจัดประชุม-กิจกรรมรวมกลุ่มคน ต้องมีมาตรการเข้มข้น ทั้งหน้ากาก เว้นระยะห่าง บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เลี่ยงการตะโกน ใช้แอพไทยชนะทุกครั้ง นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรคกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลกรายงานวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 314,855 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 32,408,504 ราย โดย ประเทศที่มีการติดเชื้อสะสมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 7,185,471 ราย อินเดีย 5,816,103 ราย บราซิล 4,659,909 ราย สำหรับการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคตามพื้นที่แนวชายแดน รัฐบาลไทยได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันโรคในพื้นที่ชายแดนอย่างเข้มข้น รวมถึงในจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม เฝ้าระวัง ป้องกัน แรงงานที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ไม่ได้เข้าสู่ระบบการคัดกรอง ควบคุมโรคตามมาตรการอาจนำเชื้อมาแพร่ให้กับคนในชุมชนได้ จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ไม่สนับสนุนการจ้างงานแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมายเข้าทำงาน โดยไม่ผ่านมาตรการเฝ้าระวังโรค อาจจะเป็นเหตุให้เกิดการแพร่เชื้อได้ อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ กรณีพบการแพร่ระบาดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีสาเหตุจากการปาร์ตี้ของนักศึกษา ทำให้นักศึกษา 2,500 คน ต้องอยู่ภายใต้มาตรการกักกันโรค และทางการท้องถิ่นได้ออกคำสั่งปิดสถานบันเทิงทุกแห่งในแคว้นโวด์และบังคับสวมหน้ากากในทุกสถานที่สาธารณะ ซึ่งประเทศไทยเพิ่งเกิดการรวมกลุ่มชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา ถือว่ามีความเสี่ยงที่อาจเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ โดยสัดส่วนผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศไทยตั้งแต่เริ่มมีรายงานโควิด 19 พบว่ากลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงาน ช่วงอายุ 20-39 ปี มีการติดเชื้อรวมกันมากกว่าร้อยละ 50 และส่วนมากไม่แสดงอาการ ก.สาธารณสุขมีความห่วงใย ขอให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมในวันดังกล่าวเฝ้าระวังสังเกตอาการตนเองจนครบ 14 วัน หากมีอาการ ไข้ ไอเจ็บคอ น้ำมูก การรับรส/ กลิ่นลดลง อย่าปล่อยไว้ให้รีบไปรับการตรวจวินิจฉัยที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เนื่องจากกลุ่มนี้หากป่วยจะมีอาการรุนแรงและอาจเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ขอให้ผู้ที่จัดการประชุม สัมมนา หรือจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคน ให้เข้มงวดมาตรการ โดยทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดสถานที่เว้นระยะห่าง จัดจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ส่วนผู้ร่วมงาน ขอให้ความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย เลี่ยงการตะโกนเนื่องจากอาจเกิดฝอยละอองน้ำลาย น้ำมูกกระจายและสัมผัสสู่ผู้อื่นได้ และลงทะเบียนเข้าออกสถานที่ที่ใช้บริการผ่าน “ไทยชนะ” ทุกครั้ง เพราะหากพบผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามผู้สัมผัสมาตรวจและเฝ้าระวังโรคต่อไป ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง สมาชิกในครอบครัว คนรอบข้าง ชุมชน สังคม และคนในประเทศไทย