ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 25 กย. ที่ลานสนามฝึก ค่ายอิงคยุทธบริหาร มณฑลทหารบกที่ 46 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้มีสาวไทยจำนวนมากเดินทางมารายงานตัวรับสมัครคัดเลือกทหารพรานหญิงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ เนื่องจากมีสาวไทยสนใจเข้ามาสมัครมากเป็นประวัติการ ทั่วทุกภูมิภาคตั้งแค่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน ตลอดจนภาคใต้ ซึ่งแต่ละคนส่วนใหญ่มีความรู้ เรียนจบระดับวุฒิการศึกษาสูง ปริญญาโท ตรี สาวบางคนวุฒิปริญญาโทลาออกจากตำแหน่งวิศวะกร เพื่อมารับใช้ชาติ แม่รู้ว่าถึงกับร้องไห้จนต้องทำความเข้าใจตามความฝันของตนเอง และหลายคนมีความสามารถและมีประสบการการทำงาน จากหลายๆ ฝ่ายด้วย
โดยในบรรยากาศวันนี้เป็นไปด้วยความคึกคัก ทุกคนต่างทยอยเดินทางมารายงานตัว ตั้งแต่ช่วงเช้า ทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกตามคุณสมบัติแล้ว ต้องฝึกสมรรถภาพ สอบภาคสนาม ทดสอบกำลังตามเกณฑ์มาตรฐานของทหารพราน วิดพื้น ลุกนั่ง วิ่ง จากนั้นนมีการทดสอบข้อเขียน เนื่องจากคนที่มาสมัครคัดเลือกในปีนี้มีจำนวนมาก จึงต้องแยกทดสอบถึง 3 สนาม ด้วยกันและต้องใช้ครูฝึก ครูควบคุมการสอบ จากหน่วยกำลังทหารพรานจากหลายหน่วยเพื่อให้การสอบครั้งนี้มีความโปร่งใส่ที่สุด
ขณะเดียาวกัน พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เข้ามาตรวจเยี่ยมการรับสมัครทหารพรานหญิงในครั้งนี้ด้วยตนเอง หลังจากมาพบปะเจ้าหน้าที่ทหารแล้วได้ตรวจแถว และให้กำลังใจกับเหล่าน้องๆ ที่มาสมัครคัดเลือกทหารพรานหญิงในครั้งนี้ด้วย
พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.กองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยว่า ครั้งนี้เรารับสมัครทหารพรานหญิงจากที่ได้ลาออกไป จะเห็นว่าครั้งนี้มีการสมัครกะนมามากถึง 1,300 กว่าคน มารายงานตัววันนี้ 1,116 คน จะเห็นว่าทหารพรานหญิงนี้เป็นอาชีพที่มีเกียรติ เสียสละ วันนี้เราจะทำการคัดเลือกโดยโปร่งใสและยุติธรรม ถูกต้อง ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งลูกหลานมาสมัครกันมายกทั่วประเทศ หลายภาค ตั้งแต่จังหวัดเชียงใหม่ มาถึง อ.เบตง จ.ยะลา ทั้งภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง และวันนี้ที่มาสมัครมีการศึกษาสูง บางคนมีวุฒิการศึกษาทั้งปริญญโท ปริญญาตรีหลายร้อนคน วันนี้ในพันกว่าคน เราต้องการก่อน 15 คน ซึ่งจะคัดให้ดีที่สุดตามความสามารถ และจะขึ้นบัญชีด้วย
พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา เผยตอนท้ายว่าโดยที่ผ่านมาหน้าที่หลักถือว่าเป็นภาระหนักพอสมควร หน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่ทหารพรานหญิงคือทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในหลายๆ ด้าน ตามภาระกิจใน 3 จชต.และที่ผ่านมานี้ทหารพรานหญิงได้สร้างภาพพจน์สร้างภาพลักษณ์ที่ดี เข้าถึงการช่วยเหลือและเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างทหารกับพี่น้องประชาชนได้อย่างดี เสมอมา
นางสาวณฐชนก แก้วลือ อายุ 29 ปี เผยว่า วุฒิการศึกษาจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน คณะวิศวะอุตสาหกรรม ภูมิลำเนาจากจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า มาด้วยความตั้งใจของตัวเอง และของพ่อ ตนลาออกจากวิศวกรที่โคราช ตนทำงานมาแล้วระยะหนึ่ง ใช้หนี้สินหมดแล้วขณะนี้อายุ 29 แล้วก็เลยมาสมัครให้ตรงตามที่ใฝ่ฝัน เพราะชอบเป็นทหารหญิง
นางสาวณฐชนก แก้วลือ เผยอีกว่า การทำหน้าที่ได้ช่วยเหลือชาวบ้าน ใช้ความเป็นผู้หญิง ใช้ความอ่อนโยนของความเป็นผู้หญิงให้การช่วยเหลือและให้ความเชื่อใจได้ดีกว่าผู้ชาย รู้สึกไม่กลัวในสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะในครอบครอบมีพ่อเป็นทหาร และน้ากับพี่ชายทำหน้าที่ทหารอยู่ จ.ยะลา เช่นกัน
นางสาวณฐชนก แก้วลือ เผยตอนท้ายว่า ก่อนมาได้ขอกับแม่หลายครั้ง ตอนที่แม่มาส่ง แม่ร้องให้หนักมาก แต่ตนก็พูดให้แม่เข้าใจ การมาอยู่ที่ภาคใต้นี้เป็นความตั้งใจ ตนไม่กลัว และอีกอย่างการเดินทางปัจจุบันก็ไม่ยาก สะดวก คิดถึงบ้านก็กลับบ้านได้สนามบิน รถ ใจเราสู้อยู่แล้วไม่กลัว






