กรมชลประทาน เดินหน้าพัฒนาพื้นที่แก้มลิงทุ่งหิน จังหวัดสมุทรสงคราม แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ พร้อมบรรเทาอุทกภัย ในช่วงฤดูน้ำหลาก และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เสริมรายได้ให้ชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อวันที่ 25ก.ย. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการเตรียมพื้นที่รองรับน้ำในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม โดยมี ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและบรรยายสรุปผลการดำเนินงาน ณ ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นพื้นที่ที่ไม่มีน้ำต้นทุนเป็นของตนเอง การใช้น้ำจะอาศัยน้ำจากแม่น้ำแม่กลองเป็นหลัก ประกอบกับในบางปีที่ปริมาณน้ำต้นทุนมีจำกัด จะส่งผลให้บางพื้นที่เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ จึงจำเป็นต้องหาแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อเป็นน้ำต้นทุนสำหรับใช้ในกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการบรรเทาอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลาก กรมชลประทาน จึงร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวงชนบท การประปาส่วนภูมิภาค กรมโยธาธิการและพังเมือง ดำเนินโครงการแก้มลิงทุ่งหิน ตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว โครงการแก้มลิงทุ่งหิน มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 2,623 ไร่ ทำหน้าที่รับน้ำจาก คลองบางเค็ม (2 ขวา ประดู่) อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี มาลงยังคลองประดู่ ก่อนจะผันน้ำเข้าสู่พื้นที่แก้มลิงทุ่งหิน และระบายน้ำออกผ่านประตูระบายน้ำ 3 แห่ง ลงสู่คลองตรงคต คลองจาก คลองรังนก และออกปากอ่าวบางตะบูน ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ตามลำดับ หากโครงการฯ ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถใช้เป็นพื้นที่เก็บกักน้ำต้นทุนเพื่อการอุปโภคบริโภค อีกทั้งยังสามารถแก้ปัญหาน้ำหลากในช่วงฤดูฝน กรณีเมื่อฝนตกและมีปริมาณน้ำในคลองประดู่มาก แต่ไม่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้ทันที เนื่องจากเกิดสภาวะน้ำทะเลหนุนสูง ปริมาณน้ำส่วนเกินนี้จะสามารถเก็บกักเข้าพื้นที่แก้มลิง แล้วระบายน้ำออกเมื่อน้ำทะเลมีระดับลดลง รวมทั้งยังสามารถพัฒนาพื้นที่แก้มลิงให้เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศวิทยา และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ สร้างรายได้เสริมให้ชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น