เผยเคลียร์แล้ว เข้าใจตรงกันทุกแห่งต้องอำนวยความสะดวกให้คนไข้ ขณะสปสช.แจ้งปชช.ที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกบัตรทองจากสถานพยาบาล 64 แห่ง สามารถไปรักษาที่ใหม่ได้โดยไม่ต้องไปขอประวัติการรักษาเดิมได้ โดยข้อมูลจะลิงก์ถึงกันให้เอง และหากที่ไหนปฏิเสธไม่ให้ประวัติการรักษาแจ้งได้ที่สายด่วน กรมสบส.1426 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ยกเลิกสัญญาให้บริการคลินิกชุมชนอบอุ่นกับสถานพยาบาล 64 แห่ง ส่งผลให้ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งต้องย้ายสิทธิการรักษาไปยังสถานพยาบาลแห่งใหม่ โดยจะต้องใช้เอกสารสำคัญอย่างประวัติการรักษาจากสถานพยาบาลเดิมเพื่อให้การรักษาพยาบาลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่กลับพบว่ามีการโพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลว่าสถานพยาบาลที่ถูกยกเลิกสัญญาฯ บางแห่งมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการขอประวัติการรักษาของผู้ป่วย ตนจึงมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพประสานไปยังสถานพยาบาลที่ถูกกล่าวอ้าง ซึ่งหลังจากการพูดคุยปรับความเข้าใจกับสถานพยาบาลก็ได้มีการติดต่อคืนเงินให้กับผู้ป่วยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่า กฎหมายสถานพยาบาลตามสิทธิผู้ป่วยกำหนดให้สถานพยาบาลจะต้องอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยเข้าถึงข้อมูลของตน เมื่อผู้ป่วยต้องการขอรับประวัติการรักษาของตนสถานพยาบาลจะต้องสำเนาเอกสารให้กับผู้ป่วยโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น โดยกรม สบส.ได้ประสานกับโรงพยาบาลและคลินิกที่ถูกยกเลิกสัญญาฯ ซึ่งทุกแห่งพร้อมให้ความร่วมมือที่จะไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการจัดทำสำเนาประวัติของผู้ป่วย และจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยเข้าถึงประวัติการรักษาด้วยความรวดเร็วและเหมาะสม ทั้งนี้ สปสช.ได้มีการแจ้งเวียนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานพยาบาลทั้ง 64 แห่ง ว่าสามารถขอรับบริการที่หน่วยบริการใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องไปขอประวัติการรักษาจากสถานพยาบาลเดิม โดยหน่วยบริการใหม่สามารถเรียกดูประวัติการรักษาจากฐานข้อมูลของ สปสช.และรับการรักษาต่อได้ แต่หากประชาชนพบว่าสถานพยาบาลใดปฏิเสธที่จะให้ประวัติการรักษาสามารถแจ้งสายด่วน กรม สบส. 1426 เพื่อดำเนินการต่อไป